jainu
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2013, 09:19:17 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2013, 07:08:59 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2013, 07:09:46 PM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 10, 2013, 08:17:08 PM โดย jainu »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2013, 08:30:24 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2013, 01:49:07 PM » |
|
ด้วยลมหนาวจากซีกโลกเหนือ ทำให้เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นสถานที่ที่เหมาะสมเป้นอย่างยิ่งสำหรับการจัดเทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตัวงานเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม และยาวเรื่อยไปอีกหนึ่งเดือน เทศกาลรูปแกะสลักน้ำแข็งและหิมะนานาชาติเมืองฮาร์บิน ทำให้ผู้เข้าชมต้องตื่นตะลึงไม่กับประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดยักษ์ นอกจากนั้นก็ยังมีงานแสดง "โลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ" ที่จัดแสดงอาคารขนาดเท่าจริงซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่จากก้อนน้ำแข็งขนาด 90 ซม. จากแม่น้ำซองหัวที่ใกล้เคียง
เทศกาลบูชาไฟ หรือ Up Helly Aa มีมาตั้งแต่สมัยปี 1870 ซึ่งจะตรงกับวันที่ 29 มกราคมของปี 2014 จดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองตามแบบฉบับของชาวไวกิงสแกนดิเนเวียนจากหมู่เกาะเช็ทแลนด์ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ เริ่มต้นงานด้วยการเดินพาเหรดไปตามท้องถนนของเมืองเลอร์วิก สมาชิกกลุ่มชาวไวกิ้งชื่อ Jarl จะมารายล้อมผู้นำของพวกเขา หรือที่เรียกว่า 'Guizer Jarl' ที่บนเรือไวกิงจำลองขนาดเท่าจริง จุดไคลแมกซ์ของงานก็คือตอนที่ผู้เข้าร่วมงานนับพันคน ที่ต่างก็สวมชุดไวกิงเต็มรูปแบบ พร้อมใจกันโยนคบเพลิงใส่ เผาทำลายเรือไวกิงจำลองของพวกเขาให้กลายเป็นเถ้าธุลี
เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชุดที่แสนจะหรูหราอลังการและหน้ากากสลักลายประณีตงดงามบนใบหน้าของเหล่าผู้เข้าร่วมงานเทศกาลหน้ากากเมืองเวนิส (Carnevale di Venezia) หรือเทศกาลคาร์นิวัลเมืองเวนิส ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเสน่ห์และเวทมนตร์อันแสนลึกลับอัศจรรย์ของนครริมน้ำแห่งนี้ ตัวงานจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ส่วนภาพนี้เป็นผู้เข้าร่วมงานที่มาโพสต์ท่าโชว์ความสวยงามที่จัตุรัสเซนต์มาร์คส์ ระหว่างช่วงวันเทศกาล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2013
ทุก ๆ ปี ผู้คนกว่าหลายล้านคนทั่วทั้งประเทศจะแห่กันเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีนพร้อมกับมีวันหยุดยาวนานเป็นสัปดาห์ สำหรับปี 2013 วันตรุษจีนนั้นตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ชาวจีนจะพากันจัดงานไหว้อาหารมากมายหลายชนิด และขอพรให้พวกเขามีสุขภาพและโชคลาภดี ๆ ไปตลอดทั้งปี มีการแสดงต่าง ๆ เกิดขึ้นทุกหนทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การเชิดมังกร (จากภาพเป็นการเฉลิมฉลองที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2013) และสำหรับปีม้า ค.ศ.2014 ที่กำลังจะถึงนี้ เทศกาลตรุษจีนจะตรงกับวันที่ 31 มกราคม
จัดขึ้นที่เมืองอิวารีอา ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ทุก ๆ เดือนกุมภาพันธ์ ชาวเมืองและผู้คนจะแห่เดินทางกันมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลปาส้ม (Battaglia delle Arance) ที่เป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ชาวเมืองได้ออกมาขับไล่เจ้าเมืองที่ชั่วร้ายตั้งแต่สมัยยุคกลาง สำหรับปีนี้เทศกาลได้เกิดขึ้นไปในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากครั้งหนึ่งที่ชาวเมืองเคยต่อสู้ด้วยมีดดาบและคันธนู ปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนอาวุธมาเป็นผลส้มแทน จากผู้เข้าร่วมชมกว่า 100,000 คน การต่อสู้ที่ขับเคี่ยวที่สุดจะเกิดขึ้นโดยกลุ่มนักปาส้มมือฉมังที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรวม 9 ทีม ซึ่งจะเปิดฉากระดมปาส้มใส่คนในชุดเกราะบนรถม้าซึ่งเป็นตัวแทนของกองทหารของเจ้าเมืองผู้ชั่วร้ายในอดีต
หลาย ๆ บอกว่าเทศกาลนี้คือพาเหรดบนท้องถนนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทุก ๆ ปี เหล่าโรงเรียนดนตรีแซมบาในเมืองรีโอเดจาเนโรจะส่งผลงานขบวนพาเหรดสุดอลังการงานสร้าง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ลีลาท่าเต้น ฯลฯ อีกมากมายมาประชันกัน ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013 แสดงให้เห็นสมาชิกของขบวนพาเหรดจากสถาบัน Academicos Do Grande Rio ในชุดระยิบระยับสวยอลังการ
เพื่อเป็นการเตรียมงานสู่เทศกาลมหาพรต ของชาวคริสต์นิกายคาทอลิก ก็มีการจัดงานเทศกาลมาร์ดิกราส์ หรืองานเฉลิมฉลองแบบคาร์นิวัลขึ้นที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ที่ตัวงานจะถึงจุดพีคสุดในวันอังคารก่อนถึงงานเทศกาลมหาพรต ไฮไลท์ของงานก็คือการแห่ขบวนฉลองไปตามถนนเส้นต่าง ๆ ของเมือง มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้าร่วมเทศกาล ยกตัวอย่างเช่นในภาพนี้ที่สมาชิกขององค์กรช่วยเหลือทางสังคมของชาวเผ่าซูลู ก็เข้าร่วมขบวนพาเหรดผ่านเซนต์ชาร์ลส์อเวนิว ในวันเทศกาลมาร์ดิกราส์ ซึ่งจัดไปแล้วในปีนี้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์
วันที่ 17 มีนาคมถือเป็นวันที่นักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองไอร์แลนด์ได้เสียชีวิตลงเมื่อราว ๆ ปีค.ศ.457 แต่ก็ต้องรอจนปี 1955 กว่าไอร์แลนด์จะได้มีการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองนาน 4 วันในทุก ๆ ปีเนื่องด้วยวันเซนต์แพทริกอย่างในทุกวันนี้ จุดที่มีการเฉลิมฉลองมากที่สุดก็คงจะต้องเป็นกรุงดับลิน ที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนกว่า 650,000 คนที่ต่างก็แห่กันมาชมขบวนพาเหรดในงานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของชาวไอร์แลนด์ แต่ถ้าคุณไม่สามารถถ่อมายังไอร์แลนด์เองได้ก็ไม่ต้องห่วง เพราะปัจจุบันสีเขียวสดใสสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองเทศกาลวันเซนต์แพทริกก็ได้แผ่กว้างไกลไปทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตาม ภาพบนนี้ชายในชุดสีเขียวเลียนแบบเลเปอครอน ตัวเอลฟ์ตามนิทานปรัมปราของชาวไอริช ร่วมสร้างสีสันให้คนที่ผ่านไปมาในงานเทศกาลวันเซนต์แพทริก ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ด้วยการสวมอุปกรณ์เครื่องเล่นแรงดันน้ำ ท่ามกลางแม่น้ำชิคาโกที่ถูกตกแต่งย้อมสีให้มีสีเขียวเข้ากับตัวงาน
เทศกาลโฮลี หรือเทศกาลเล่นสี สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ มีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นทุกหนทุกแห่งทั่วทั้งประเทศอินเดีย ผู้เข้าร่วมงานจะสาดผงสีสีสันสดใสใส่กัน เดิมทีแล้วเทศกาลนี้มีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความดีงามที่สามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้ ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ในขณะที่เด็กชายกำลังถูกสาดสีน้ำใส่ระหว่าวช่วงเทศกาลโฮลีที่เมืองเจนไน ทางตอนใต้ของอินเดีย
เริ่มจัดเป็นครั้งแรกในปี 1999 ที่ลานกลางแจ้งของเอ็มไพร์โปโลคลับ เมืองอินดิโอ แคลิฟอร์เนีย เทศกาลดนตรีและศิลปะกลางแจ้ง โคอเชลลาวัลเลย์ ได้ขยายขนาดจากการเป็นเทศกาลที่มีผู้คนเข้าชมแค่ราว ๆ 25,000 คนในตลอดทั้งช่วงเทศกาล กลายเป็นมากที่สุดถึง 75,000 คนต่อวัน และกลายเป็นเวทีสำคัญของบรรดาวงร็อค, อิเล็กทรอนิกอินดี้ โดยในปีนี้งานได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 -14 เมษายนที่ผ่านมา
แน่นอนว่าต้องมีเทศกาลสงกรานต์อยู่ด้วย เทศกาลสงกรานต์จัดขึ้นในวันที่ 13 ถึง 15 เมษายนของทุกปี นอกจากจะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่แบบไทย ๆ แล้ว สงกรานต์ยังเป็นเทศกาลแห่งครอบครัว ที่บรรดาสมาชิกรุ่นเยาว์ในบ้านจะได้ร่วมกันรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ มีการสรงน้ำพระ ทำบุตรตักบาตร ฯลฯ แต่ที่ทำให้งานเทศกาลสงกรานต์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกก็คือ การที่คนไทยและนักท่องเที่ยวได้ออกมาสาดน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนานนั่นเอง
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1946 จนกลายเป็นหนึ่งในงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ทรงเกียรติ, โด่งดัง และได้รับการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อช่องทางต่าง ๆ มากที่สุดในโลก ทุก ๆ ปีริมฝั่งแม่น้ำริเวียราของฝรั่งเศสจะเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาผู้คนจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลก และอาคาร Palais des Festivals (ภาพบน) ก็จะรับหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานมอบรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d'Or) โดยในครั้งล่าสุดเทศกาลนี้จัดไปเมื่อวันที่ 15 - 26 พฤษภาคม โดยมีภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง Blue Is the Warmest Colour เป็นผู้คว้ารางวัลใหญ่ไปครอง
เทศกาลสกาเลตเซลส์ จัดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เดิมทีมีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเหล่านักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษา ส่วนที่มาของเทศกาลนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องราวของ อเล็กซานเดอร์ กริน นักเขียนชาวรัสเซีย ที่เล่าถึงเรื่องของเด็กสาวผู้ไม่เคยย่อท้อในการทำตามฝัน จนกระทั่งวันที่ฝันของเธอได้เป็นจริงพร้อม ๆ กับการมาของเรือลำใหญ่พร้อมใบเรือสีแดงสง่า สำหรับวันที่ของการจัดงานนี้ก็จะขึ้นอยู่กับวันจบการศึกษาที่เปลี่ยนไปตามแต่ละปี อันที่จริงแล้วเทศกาลสกาเลตเซลส์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะและดนตรี พระอาทิตย์เที่ยงคืน (White Nights) ซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูกาลที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน มีผู้เข้าร่วมงานทุก ๆ ปีกว่า 5 ล้านคน เทศกาลสกาเลตเซลส์ครั้งล่าสุดจัดไปในคืนของวันที่ 23 มิถุนายน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ชาวนาคนหนึ่งในโซเมอร์เซ็ท อังกฤษ ชื่อ ไมเคิล อีวิส เป็นผู้ริเริ่มเทศกาลแกลสตันบูรี งานศิลปะดนตรีกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มาตั้งแต่ปี 1970 ดึงดูดผู้คนราว ๆ ปีละกว่า 175,000 คน เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของซุปเปอร์สตาร์คนดังที่จะมาเข้าร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศโล่งแจ้งกลางท้องทุ่งของอังกฤษ ทีมงานภายในงานล้วนเป็นเหล่ากองทัพของอาสาสมัคร โดยกำไรจากการจัดงานเกือยทั้งหมดจะถูกนำไปมอบให้กับองค์กรการกุศล ไฮไลท์ของงานที่เพิ่งจัดไปในปี 2013 ก็คือ การแสดงของวง Rolling Stones (ดังภาพ) เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นั่นเอง
เทศกาลวิ่งวัวกระทิง หรือเทศกาลซานเฟอร์มิน กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อถูกนำไปกล่าวถึงในนวนิยายปี 1926 เรื่อง The Sun Also Rises ของนักเขียนคนดัง เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ทุกวันนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักงานเทศกาลที่ฝูงกระทิงจะวิ่งผ่าใจกลางเมืองปัมโปลนา โดยในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกสวมชุดสีขาวและผ้าสีแดงตามธรรมเนียม วิ่งหนีฝูงวัวกระทิง (ดังภาพ) ตลอดความยาว 825 เมตรของแนวถนนแคบ ๆ ไปสิ้นสุดที่ Plaza de Toros de Pamplona สนามกีฬาชนวัวแห่งประวัติศาสตร์ของเมือง ตัวงานครั้งล่าสุดจัดไปเมื่อวันที่ 6 - 14 กรกฎาคม
วันชาติฝรั่งเศส มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ 'งานเฉลิมฉลองแห่งชาติ' (La Fête Nationale) ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งบังเอิญไปตรงกับวันที่เกิดการทลายคุกบาสตีย์ซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 แต่อันที่จริงแล้ว การเลือกวันที่ 14 กรกฎาคมเป็นวันชาติฝรั่งเศสมีสาเหตุอันเนื่องมาจากการเป็นวันเฉลิมฉลองสมาพันรัฐฝรั่งเศสเมื่อปี 1790 ต่างหาก ทั่วทั้งฝรั่งเศสจะมีการจักงานเฉลิมฉลอง แต่ที่กรุงปารีสจะมีการเดินสวนสนามของกองทหารที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป บนถนนช็องเซลีเซ ส่วนภาพนี้เป็นภาพของหอไอเฟลที่ได้รับการตกแต่งด้วยดวงไฟมากมาย พร้อม ๆ กับการแสดงดอกไม้ไฟในวันชาติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2013
เทศกาลศิลปะกลางแจ้งกรุงเอดินบะระ ถือเป็นแชมป์เทศกาลศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตัวงานจัดขึ้นยาวนานตลอด 3 สัปดาห์ มีนักแสดงเข้าร่วมจากกว่า 50 ประเทศ พร้อมสร้างสรรค์งานโชว์รวมกว่า 2,500 การแสดง เดิมทีงานนี้ถูกริเริ่มมาให้เป็นอีกทางเลือกของงานเทศกาลศิลปะนานาชาติของเมืองที่ก็ได้รับการจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมด้วยเหมือนกัน สำหรับในปี 2013 เทศกาลศิลปะกลางแจ้งกรุงเอดินบะระเพิ่งจะฉลองครบรอบปีที่ 67 ไป ส่วนภาพนี้เป็นภาพของนักแสดงที่บนถนนรอยัลไมล์ กรุงเอดินบะระ สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม
เทศกาลน็อตติงฮิลล์คาร์นิวัล ในลอนดอน ถือเป็นเทศกาลพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 1964 โดยกลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกัน-แคริบเบียน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนสิงหาคม ท้องถนนในแถบตะวันตกของชานเมืองกรุงลอนดอนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันจากขบวนนักแสดงและวงดนตรีมากมาย ผู้เข้าร่วมงานกว่าล้านคนจะเดินทางมาร่วมกันเฉลิมฉลองจากทุกหนทุกแห่ง ภาพนี้นักแสดงสาวกำลังโพสต์ท่าถ่ายภาพในขณะที่เธอเดินพาเหรดผ่านไปตามท้องถนนในงานเทศกาลที่จัดไปแล้วเมื่อปี 2013
ตลอดเวลา 27 ปีที่มีการจัดงาน คงไม่มีงานเทศดาลศิลปะนานาชาติที่ไหนที่จะทั้งแปลกทั้งห่างไกลตัวเมืองได้เท่ากับงานเทศกาลเบิร์นนิงแมน หรือเทศกาลศิลปะหลุดโลก อีกแล้ว ในงานประจำปี 2013 มีผู้คนกว่า 68,000 คนมุ่งมั่นเดินทางไปไกลถึงเมืองแบล็คร็อคซิตี้ สถานที่จัดงานชั่วคราว ณ ใจกลางทะเลทรายแบล็คร็อคในรัฐเนวาดา สหรัฐฯ ห่างจากเมืองเรโนที่ใกล้ที่สุดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว ๆ 200 กม. เทศกาลเฉลิมฉลองยาวนานตลอดสัปดาห์เต็มไปด้วยงานแสดงศิลปะสด ๆ มากมาย และตัวงานจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งจะมีพิธีปิดเป็นการเผาหุ่นไม้เป็นกองเพลิงสูงตระหง่านดังเช่นในภาพบนนี้
ถ้านี่ไม่ใช่เทศกาลที่แปลกที่สุดของสเปนแล้วล่ะก็ มันจะต้องเป็นเทศกาลที่เละเทะที่สุดแน่ ๆ เทศกาลปามะเขือเทศ หรือ 'ลาโตมาตินา' เกิดขึ้นในวันที่ 28 สิงหาคม ณ เมืองบูญอล ใกล้ ๆ กับบาเลนเซีย จุดเริ่มต้นของงานเทศกาลสุดเพี้ยนนี้ค่อนข้างพร่าเลือน แต่น่าจะต้องย้อนกลับไปไกลถึงช่วงปี 1945 แม้ว่าตอนแรกจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้งานเทศกาลดังกล่าวก็มีผู้เข้าร่วมถึงกว่า 20,000 คนต่อปี มีการใช้มะเขือเทศปากันกว่า 130 ตัน เปลี่ยนถนนทั่วเมืองให้กลายเป็นสีแดง แต่เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอในการจัดงาน ทางเมืองจึงต้องเริ่มนโยบายขายตั๋วค่าเข้าร่วมงานสำหรับนักท่องเที่ยวนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป
ถ้าคุณชอบจิบเบียร์เย็น ๆ ในแก้วโต ๆ เห็นทีคุณจะต้องมุ่งหน้าไปยังเมืองมิวนิก อันเป็นสถานที่ที่จะมีการจัดงานเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ หรือเทศกาลเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คุณจะได้เห็นคนเดินไปเดินมาในชุดตามประเพณีดั้งเดิม แต่ละคนต่างก็จะถือแก้วเบียร์ขนาดใหญ่เกิน 1 ลิตรขึ้นไปทั้งสิ้น แล้วยังมีอาหารท้องถิ่นอื่น ๆ ให้ได้อิ่มอร่อยกันอีกมากมาย สำหรับในภาพนี้ผู้เข้าร่วมงานต่างพากันยื่นมือเพื่อคว้าแก้วเบียร์ในวันเปิดเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน
เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์กที่จัดขึ้นนาน 9 วัน (ตั้งแต่ 5 - 13 ตุลาคม) เป็นงานเทศกาลบอลลูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ดึงดูผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคน และจะมีบอลลูนรูปทรงต่าง ๆ มาร่วมจัดแสดงโชว์เหนือน่านฟ้าของรัฐนิวเม็กซิโกกว่า 750 ลูก ไฮไลท์ของงานก็คือการลอยบอลลูนในช่วงกลางคืน รวมไปถึงการแสดงลอยบอลลูนหมู่อย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เทศกาลกินเจหรือเทศกาลถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต จะต้องเป็นการกินเจที่น่าขนลุกขนพองที่สุด เชื่อกันว่าเทศกาลถือศีลกินผักที่ภูเก็ตเริ่มต้นย้อนไปไกลถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ซึ่งชาวจีนผู้อพยพมาได้สืบทอดประเพณีการละเว้นเนื้อสัตว์ในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี และจะช่วยให้ผู้ที่ถือศีลกินเจมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี แต่สิ่งที่ทำให้งานเทศกาลกินเจของที่ภูเก็ตนี้โด่งดังไปทั่วโลกก็คือ การแสดงที่ใช้สิ่งมีคมนานาชนิดเจาะทะลุตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของเหล่าม้าทรง อันมีความเชื่อว่าจะเป็นการขับไล่ความชั่วร้ายและนำพาโชคลาภมาสู่ชุมชน ดังเช่นในภาพนี้ที่ม้าทรงจากศาลเจ้าในหมู่บ้านกะทู้ เสียบทะลุผ่านผิวหนังที่เต็มไปด้วยรอยสัก ระหว่างการเข้าร่วมเทศกาลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม
ในวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี ทางตะวันตกของสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จะมีการจัดเทศกาลวิ่งวัวประเพณี (Pacu Jawi) ของชาวมีนังกาเบา ท่ามกลางลานแข่งขันที่เป็นทุ่งนาและโคลนของเมืองบาตุซังการ์ เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องจับหางวัวให้อยู่ในระหว่างที่ถูกลากโต้โคลนด้วยเท้าเปล่าหรือแผ่นกระดานไม้ ซึ่งต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งของวัวและคน รวมทั้งความสามารถในการทรงตัวอีกด้วย โดยวัวที่เข้าร่วมงานจะถูกนำไปประมูลขายหลังจบการแข่งขันต่อไป
เมื่อถึงสั้นเดือนตุลาคมของทุกปี เราจะได้เห็นผู้คนทั่วทั้งแถบประเทศลาตินอเมริกา ร่วมรำลึกให้เกียรติแก่บรรดาญาติมิตรที่ตายจากไปในงานเทศกาลวันแห่งความตาย (Dia de los Muertos) ซึ่งเป็นการผสมผสานประเพณีดั้งเดิมของชาวโคลัมเบียเข้ากับพิธีกรรมตามแบบของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่จะมีการจัดงาน 'วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย' ในวันที่ 1 พ.ย. และ 'วันวิญญาณในแดนชำระ' ในวันที่ 2 พ.ย. ภายในงานเทศกาลจะมีการเดินขบวนพาเหรด, ตกแต่งหลุมศพด้วยเทียนและโคมไฟสีส้ม อย่างเช่นในภาพนี้ที่ถ่ายที่เมือง Xoxocotlán ในเม็กซิโก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม
เทศกาลดิวาลี หรือเทศกาลแห่งแสงไฟ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในอินเดียสมัยโบราณ ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยว ระหว่างช่วงที่มีการจัดงาน ผู้คนจะร่วมกันเฉลิมฉลองที่ความดีสามารถเอาชนะความชั่วร้าย, ความสว่างไสวที่เอาชนะความมืดมน และความบริสุทธิ์ที่เอาชนะความจองหอง ด้วยการจุดเทียนแสดงถึงแสงสว่างนั่นเอง นอกจากนี้วันเทศกาลดิวาลียังถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวฮินดูอีกด้วย ส่วนภาพนี้กลุ่มหญิงม่ายชาวอินเดียรวมตัวกันจัดงานเทศกาลดิวาลีที่เมืองวรินดาวัน อินเดีย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน
เทศกาลคืนเล่นไฟ (บอนไฟร์ไนท์) จัดขึ้นทั่วทั้งประเทศ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนของทุกปี แต่ที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อ อ็อตเตอร์รี่ เซ็นต์แมร์รี่ ในเดวอน จะมีการจัดงานฉลองที่ดำเนินกันมาอย่างต่อเนื่องกว่า 400 แล้ว ซึ่งก็คือการที่ชาวเมืองจะลงแข่งขันแบกถังไม้ติดไฟ วิ่งไปตามถนนในเมือง และพวกเขาจะเลิกก็ต่อเมื่อไฟมันร้อนจนเกินกว่าที่จะอดทนได้หรือว่าถังไม้โดนไฟเผาจนแตกเสียหายซะก่อนเท่านั้น (ภาพนี้เด็กชายชาวเมืองร่วมแข่งขันในการแข่งรุ่นเยาว์ของปี 2013) สำหรับในที่อื่น ๆ ในอังกฤษแล้ว วันที่ 5 พฤศจิกายน จะเป็นที่รู้จักในชื่อของวัน 'กายฟอคส์ไนท์' ซึ่งตั้งขึ้นตามชื่อของชายผู้วางแผนขนระเบิดดินปืนเพื่อหมายจะระเบิดอาคารรัฐสภาของอังกฤษแต่ไม่สำเร็จ ตั้งแต่เมื่อปี 1605
เทศกาลวันแห่งหัวกะโหลก คือการผสมผสานความเชื่อแบบคนนอกศาสนาเข้ากับประเพณีของชาวคาทอลิก สืบทอดกันมาในหมู่ชาวโบลิเวียแอนดีส ในงานเทศกาลจะมีการจัดเตรียมอาหาร, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแม้แต่บุหรี่ ให้กับหัวกะโหลกของญาติผู้ล่วงลับ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ได้ให้การปกปักษ์รักษา สำหรับปี 2013 เทศกาลนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน ดังภาพนี้ที่ชายตัวแทนผู้ทำพิธีกำลังอัญเชิญหัวกะโหลกซึ่งได้รับการตกแต่งบูชา ภายในงานที่จัดขึ้นที่โบสถ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในกรุงลาปาซ ประเทศโบลิเวีย
อีกหนึ่งเทศกาลของคนไทยที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลกก็คือ เทศกาลบุฟเฟต์ลิง ที่ริเริ่มจัดเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1989 เพื่อหมายจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสู่จังหวัดลพบุรี ภายในงานจะมีการรวมเอาผลไม้, ผัก, เค้ก, ขนมหวาน ทั้งที่ถูกแช่อยู่ในรูปของก้อนน้ำแข็ง และที่นำมาจัดวางเรียงไปรูปทรงต่าง ๆ ทั้งหมดหนักรวมกันกว่า 4 ตัน ที่โบราณสถานพระปรางค์สามยอด ให้ลิงที่อาศัยอยู่ ณ บริเวณนั้นได้อิ่มหนำสำราญกันทุก ๆ ปี สำหรับปี 2013 งานเทศกาลนี้เพิ่งจัดไปในวันที่ 25 พฤศจิกายน
ถึงช่วงปีใหม่ ใคร ๆ ก็ต้องอยากเข้าร่วมงานปาร์ตี้เฉลิมฉลองกันให้สนุกสุดเหวี่ยง และเทศกาลปีใหม่ของชาวสกอต หรือเทศกาลฮ็อกมาเนย์ ก็จะจัดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่งตามท้องถนนของกรุงเอดินบะระที่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่กล้าออกมาท้าลมหนาวฉลองปีใหม่ หรือถ้าแค่นั้นยังไม่สาแก่ใจพอ คุณก็สามารถเข้าร่วมพาเหรดที่จะไปจบลงที่ริมแม่น้ำริเวอร์ฟอร์ธ อันเป็นที่ที่มีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะร่วมทำตามประเพณีลงว่ายน้ำในแม่น้ำที่เย็นยะเยือกจนเป็นน้ำแข็ง ส่วนภาพนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวได้รับของขวัญปีใหม่เป็นจุมพิตจากชาวเมืองที่เข้าร่วมงานในถนนพรินซ์สตรีท ระหว่างช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี 2008
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2013, 10:12:05 PM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2013, 04:40:18 PM โดย jainu »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 09:07:55 PM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2013, 04:44:38 PM โดย jainu »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 21, 2014, 09:23:01 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|