Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 2 [3]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: VIEW & PICTURE SSS  (อ่าน 6015 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2013, 09:19:17 PM »









บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2013, 09:29:42 PM »


อดัม โรเบิร์ต นักสกีกำลังเดินไปตามเส้นทางโคลแมน เดมิง รูท บน Mt.Baker


ฉากหลังของนักสกี ทอม เมอร์ฟี คือความงดงามของ Neve Glacier ในรัฐวิชิงตัน


คริสเตียน สกาลากำลังสกีไปตามทางในสกีรีสอร์ท Sportgastein ตั้งอยู่ที่ Salzburg ประเทศออสเตรี


นักสกี โทมัส เบิร์กมัลกระโดดเหนือถ้ำธารน้ำแข็ง


ซัลซ์เบิร์ก ประเทศออสเตรียมีภูเขาที่งดงามหลายแห่ง Martin Kaiser-Kaplaner นักสกีกำลังลงเนินเขาที่สกีรีสอร์ต Zauchensee


อีกภาพของนักสกี Kaiser-Kaplaner ที่สกีรีสอร์ต Zauchensee ใน Salzburg ประเทศออสเตรีย


คริสท็อฟ โอเบอร์ชไนเดอร์ สกีที่ Zauchensee


นักสกีอดัม โรเบิร์ตกำลังโชว์ลีลาลงจากเนินเขาบน Mt.Shuksan


ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนทราย แต่ที่จริงแล้วเป็นรอยทางสกีที่แคสเตอร์พีค ในบริติช โคลัมเบีย


นักสโนว์บอร์ด Kyle Miller แทบมองหาไม่เจอเลยบน Mt.Logan


นักสกี Felix Hentz กระโดดขึ้นในอากาศโดยมี Mt.Blanc เป็นฉากหลัง Blanc เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเฟรนช์แอลป์


นักสกีคนหนึ่งกำลังสกีจากหน้าผาในอัลต้า รัฐยูทาห์


แสงสุดท้ายในเบร็กเคนริดจ์ โคโลราโด


นักสกีคนหนึ่งในแจ็คสันโอล เมาท์เทน รีสอร์ท ในไวโอมิง


นักสโนว์บอร์ดแสดงท่าทางผาดโผนกระโดดลอยตัวที่ภูเขา Zugspitze ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมัน


นักสกีกระโดดตัวลอย


นักสกีคนหนึ่งกระโดดจากหน้าผาในเขตที่อยู่ห่างไกลของไวโอมิง


นักสกีคนหนึ่งกำลังสกีลงเนินเขาซูการ์โบว์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบ Tahoe แคลิฟอร์เนีย


นักสกี ทอม เมอร์ฟี กำลังเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามของ Backbone Ridge


ทอม เมอร์ฟี สกีไปตามทางบน Isolation Traverse ในรัฐวอชิงตัน


มาร์ก ฮอยต์ นักสโนบอร์ดโชว์ลีลากระโดดตัวลอยกลางอากาศ


นักสกี Juya Ghanaie ขึ้นมาจนถึงยอดเขา Mt.Snoqualmie


Kyle Miller กำลังสกีบนเขา Sahale Mountain
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2013, 07:08:59 PM »










บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2013, 07:09:46 PM »





























































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 10, 2013, 08:17:08 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2013, 08:30:24 PM »









บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2013, 01:49:07 PM »


ด้วยลมหนาวจากซีกโลกเหนือ ทำให้เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นสถานที่ที่เหมาะสมเป้นอย่างยิ่งสำหรับการจัดเทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตัวงานเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม และยาวเรื่อยไปอีกหนึ่งเดือน เทศกาลรูปแกะสลักน้ำแข็งและหิมะนานาชาติเมืองฮาร์บิน ทำให้ผู้เข้าชมต้องตื่นตะลึงไม่กับประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดยักษ์ นอกจากนั้นก็ยังมีงานแสดง "โลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ" ที่จัดแสดงอาคารขนาดเท่าจริงซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่จากก้อนน้ำแข็งขนาด 90 ซม. จากแม่น้ำซองหัวที่ใกล้เคียง



เทศกาลบูชาไฟ หรือ Up Helly Aa มีมาตั้งแต่สมัยปี 1870 ซึ่งจะตรงกับวันที่ 29 มกราคมของปี 2014 จดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองตามแบบฉบับของชาวไวกิงสแกนดิเนเวียนจากหมู่เกาะเช็ทแลนด์ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ เริ่มต้นงานด้วยการเดินพาเหรดไปตามท้องถนนของเมืองเลอร์วิก สมาชิกกลุ่มชาวไวกิ้งชื่อ Jarl จะมารายล้อมผู้นำของพวกเขา หรือที่เรียกว่า 'Guizer Jarl' ที่บนเรือไวกิงจำลองขนาดเท่าจริง จุดไคลแมกซ์ของงานก็คือตอนที่ผู้เข้าร่วมงานนับพันคน ที่ต่างก็สวมชุดไวกิงเต็มรูปแบบ พร้อมใจกันโยนคบเพลิงใส่ เผาทำลายเรือไวกิงจำลองของพวกเขาให้กลายเป็นเถ้าธุลี



เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชุดที่แสนจะหรูหราอลังการและหน้ากากสลักลายประณีตงดงามบนใบหน้าของเหล่าผู้เข้าร่วมงานเทศกาลหน้ากากเมืองเวนิส (Carnevale di Venezia) หรือเทศกาลคาร์นิวัลเมืองเวนิส ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเสน่ห์และเวทมนตร์อันแสนลึกลับอัศจรรย์ของนครริมน้ำแห่งนี้ ตัวงานจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ส่วนภาพนี้เป็นผู้เข้าร่วมงานที่มาโพสต์ท่าโชว์ความสวยงามที่จัตุรัสเซนต์มาร์คส์ ระหว่างช่วงวันเทศกาล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2013



ทุก ๆ ปี ผู้คนกว่าหลายล้านคนทั่วทั้งประเทศจะแห่กันเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีนพร้อมกับมีวันหยุดยาวนานเป็นสัปดาห์ สำหรับปี 2013 วันตรุษจีนนั้นตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ชาวจีนจะพากันจัดงานไหว้อาหารมากมายหลายชนิด และขอพรให้พวกเขามีสุขภาพและโชคลาภดี ๆ ไปตลอดทั้งปี มีการแสดงต่าง ๆ เกิดขึ้นทุกหนทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การเชิดมังกร (จากภาพเป็นการเฉลิมฉลองที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2013) และสำหรับปีม้า ค.ศ.2014 ที่กำลังจะถึงนี้ เทศกาลตรุษจีนจะตรงกับวันที่ 31 มกราคม



จัดขึ้นที่เมืองอิวารีอา ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ทุก ๆ เดือนกุมภาพันธ์ ชาวเมืองและผู้คนจะแห่เดินทางกันมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลปาส้ม (Battaglia delle Arance) ที่เป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ชาวเมืองได้ออกมาขับไล่เจ้าเมืองที่ชั่วร้ายตั้งแต่สมัยยุคกลาง สำหรับปีนี้เทศกาลได้เกิดขึ้นไปในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากครั้งหนึ่งที่ชาวเมืองเคยต่อสู้ด้วยมีดดาบและคันธนู ปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนอาวุธมาเป็นผลส้มแทน จากผู้เข้าร่วมชมกว่า 100,000 คน การต่อสู้ที่ขับเคี่ยวที่สุดจะเกิดขึ้นโดยกลุ่มนักปาส้มมือฉมังที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรวม 9 ทีม ซึ่งจะเปิดฉากระดมปาส้มใส่คนในชุดเกราะบนรถม้าซึ่งเป็นตัวแทนของกองทหารของเจ้าเมืองผู้ชั่วร้ายในอดีต



หลาย ๆ บอกว่าเทศกาลนี้คือพาเหรดบนท้องถนนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทุก ๆ ปี เหล่าโรงเรียนดนตรีแซมบาในเมืองรีโอเดจาเนโรจะส่งผลงานขบวนพาเหรดสุดอลังการงานสร้าง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ลีลาท่าเต้น ฯลฯ อีกมากมายมาประชันกัน ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013 แสดงให้เห็นสมาชิกของขบวนพาเหรดจากสถาบัน Academicos Do Grande Rio ในชุดระยิบระยับสวยอลังการ



เพื่อเป็นการเตรียมงานสู่เทศกาลมหาพรต ของชาวคริสต์นิกายคาทอลิก ก็มีการจัดงานเทศกาลมาร์ดิกราส์ หรืองานเฉลิมฉลองแบบคาร์นิวัลขึ้นที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ที่ตัวงานจะถึงจุดพีคสุดในวันอังคารก่อนถึงงานเทศกาลมหาพรต ไฮไลท์ของงานก็คือการแห่ขบวนฉลองไปตามถนนเส้นต่าง ๆ ของเมือง มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้าร่วมเทศกาล ยกตัวอย่างเช่นในภาพนี้ที่สมาชิกขององค์กรช่วยเหลือทางสังคมของชาวเผ่าซูลู ก็เข้าร่วมขบวนพาเหรดผ่านเซนต์ชาร์ลส์อเวนิว ในวันเทศกาลมาร์ดิกราส์ ซึ่งจัดไปแล้วในปีนี้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์



วันที่ 17 มีนาคมถือเป็นวันที่นักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองไอร์แลนด์ได้เสียชีวิตลงเมื่อราว ๆ ปีค.ศ.457 แต่ก็ต้องรอจนปี 1955 กว่าไอร์แลนด์จะได้มีการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองนาน 4 วันในทุก ๆ ปีเนื่องด้วยวันเซนต์แพทริกอย่างในทุกวันนี้ จุดที่มีการเฉลิมฉลองมากที่สุดก็คงจะต้องเป็นกรุงดับลิน ที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนกว่า 650,000 คนที่ต่างก็แห่กันมาชมขบวนพาเหรดในงานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของชาวไอร์แลนด์ แต่ถ้าคุณไม่สามารถถ่อมายังไอร์แลนด์เองได้ก็ไม่ต้องห่วง เพราะปัจจุบันสีเขียวสดใสสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองเทศกาลวันเซนต์แพทริกก็ได้แผ่กว้างไกลไปทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตาม ภาพบนนี้ชายในชุดสีเขียวเลียนแบบเลเปอครอน ตัวเอลฟ์ตามนิทานปรัมปราของชาวไอริช ร่วมสร้างสีสันให้คนที่ผ่านไปมาในงานเทศกาลวันเซนต์แพทริก ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ด้วยการสวมอุปกรณ์เครื่องเล่นแรงดันน้ำ ท่ามกลางแม่น้ำชิคาโกที่ถูกตกแต่งย้อมสีให้มีสีเขียวเข้ากับตัวงาน



เทศกาลโฮลี หรือเทศกาลเล่นสี สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ มีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นทุกหนทุกแห่งทั่วทั้งประเทศอินเดีย ผู้เข้าร่วมงานจะสาดผงสีสีสันสดใสใส่กัน เดิมทีแล้วเทศกาลนี้มีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความดีงามที่สามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้ ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ในขณะที่เด็กชายกำลังถูกสาดสีน้ำใส่ระหว่าวช่วงเทศกาลโฮลีที่เมืองเจนไน ทางตอนใต้ของอินเดีย



เริ่มจัดเป็นครั้งแรกในปี 1999 ที่ลานกลางแจ้งของเอ็มไพร์โปโลคลับ เมืองอินดิโอ แคลิฟอร์เนีย เทศกาลดนตรีและศิลปะกลางแจ้ง โคอเชลลาวัลเลย์ ได้ขยายขนาดจากการเป็นเทศกาลที่มีผู้คนเข้าชมแค่ราว ๆ 25,000 คนในตลอดทั้งช่วงเทศกาล กลายเป็นมากที่สุดถึง 75,000 คนต่อวัน และกลายเป็นเวทีสำคัญของบรรดาวงร็อค, อิเล็กทรอนิกอินดี้ โดยในปีนี้งานได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 -14 เมษายนที่ผ่านมา



แน่นอนว่าต้องมีเทศกาลสงกรานต์อยู่ด้วย เทศกาลสงกรานต์จัดขึ้นในวันที่ 13 ถึง 15 เมษายนของทุกปี นอกจากจะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่แบบไทย ๆ แล้ว สงกรานต์ยังเป็นเทศกาลแห่งครอบครัว ที่บรรดาสมาชิกรุ่นเยาว์ในบ้านจะได้ร่วมกันรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ มีการสรงน้ำพระ ทำบุตรตักบาตร ฯลฯ แต่ที่ทำให้งานเทศกาลสงกรานต์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกก็คือ การที่คนไทยและนักท่องเที่ยวได้ออกมาสาดน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนานนั่นเอง



เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1946 จนกลายเป็นหนึ่งในงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ทรงเกียรติ, โด่งดัง และได้รับการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อช่องทางต่าง ๆ มากที่สุดในโลก ทุก ๆ ปีริมฝั่งแม่น้ำริเวียราของฝรั่งเศสจะเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาผู้คนจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลก และอาคาร Palais des Festivals (ภาพบน) ก็จะรับหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานมอบรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d'Or) โดยในครั้งล่าสุดเทศกาลนี้จัดไปเมื่อวันที่ 15 - 26 พฤษภาคม โดยมีภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง Blue Is the Warmest Colour เป็นผู้คว้ารางวัลใหญ่ไปครอง



เทศกาลสกาเลตเซลส์ จัดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เดิมทีมีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเหล่านักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษา ส่วนที่มาของเทศกาลนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องราวของ อเล็กซานเดอร์ กริน นักเขียนชาวรัสเซีย ที่เล่าถึงเรื่องของเด็กสาวผู้ไม่เคยย่อท้อในการทำตามฝัน จนกระทั่งวันที่ฝันของเธอได้เป็นจริงพร้อม ๆ กับการมาของเรือลำใหญ่พร้อมใบเรือสีแดงสง่า สำหรับวันที่ของการจัดงานนี้ก็จะขึ้นอยู่กับวันจบการศึกษาที่เปลี่ยนไปตามแต่ละปี อันที่จริงแล้วเทศกาลสกาเลตเซลส์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะและดนตรี พระอาทิตย์เที่ยงคืน (White Nights) ซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูกาลที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน มีผู้เข้าร่วมงานทุก ๆ ปีกว่า 5 ล้านคน เทศกาลสกาเลตเซลส์ครั้งล่าสุดจัดไปในคืนของวันที่ 23 มิถุนายน



ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ชาวนาคนหนึ่งในโซเมอร์เซ็ท อังกฤษ ชื่อ ไมเคิล อีวิส เป็นผู้ริเริ่มเทศกาลแกลสตันบูรี งานศิลปะดนตรีกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มาตั้งแต่ปี 1970 ดึงดูดผู้คนราว ๆ ปีละกว่า 175,000 คน เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของซุปเปอร์สตาร์คนดังที่จะมาเข้าร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศโล่งแจ้งกลางท้องทุ่งของอังกฤษ ทีมงานภายในงานล้วนเป็นเหล่ากองทัพของอาสาสมัคร โดยกำไรจากการจัดงานเกือยทั้งหมดจะถูกนำไปมอบให้กับองค์กรการกุศล ไฮไลท์ของงานที่เพิ่งจัดไปในปี 2013 ก็คือ การแสดงของวง Rolling Stones (ดังภาพ) เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นั่นเอง



เทศกาลวิ่งวัวกระทิง หรือเทศกาลซานเฟอร์มิน กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อถูกนำไปกล่าวถึงในนวนิยายปี 1926 เรื่อง The Sun Also Rises ของนักเขียนคนดัง เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ทุกวันนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักงานเทศกาลที่ฝูงกระทิงจะวิ่งผ่าใจกลางเมืองปัมโปลนา โดยในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกสวมชุดสีขาวและผ้าสีแดงตามธรรมเนียม วิ่งหนีฝูงวัวกระทิง (ดังภาพ) ตลอดความยาว 825 เมตรของแนวถนนแคบ ๆ ไปสิ้นสุดที่ Plaza de Toros de Pamplona สนามกีฬาชนวัวแห่งประวัติศาสตร์ของเมือง ตัวงานครั้งล่าสุดจัดไปเมื่อวันที่ 6 - 14 กรกฎาคม



วันชาติฝรั่งเศส มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ 'งานเฉลิมฉลองแห่งชาติ' (La Fête Nationale) ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งบังเอิญไปตรงกับวันที่เกิดการทลายคุกบาสตีย์ซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 แต่อันที่จริงแล้ว การเลือกวันที่ 14 กรกฎาคมเป็นวันชาติฝรั่งเศสมีสาเหตุอันเนื่องมาจากการเป็นวันเฉลิมฉลองสมาพันรัฐฝรั่งเศสเมื่อปี 1790 ต่างหาก ทั่วทั้งฝรั่งเศสจะมีการจักงานเฉลิมฉลอง แต่ที่กรุงปารีสจะมีการเดินสวนสนามของกองทหารที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป บนถนนช็องเซลีเซ ส่วนภาพนี้เป็นภาพของหอไอเฟลที่ได้รับการตกแต่งด้วยดวงไฟมากมาย พร้อม ๆ กับการแสดงดอกไม้ไฟในวันชาติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2013



เทศกาลศิลปะกลางแจ้งกรุงเอดินบะระ ถือเป็นแชมป์เทศกาลศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตัวงานจัดขึ้นยาวนานตลอด 3 สัปดาห์ มีนักแสดงเข้าร่วมจากกว่า 50 ประเทศ พร้อมสร้างสรรค์งานโชว์รวมกว่า 2,500 การแสดง เดิมทีงานนี้ถูกริเริ่มมาให้เป็นอีกทางเลือกของงานเทศกาลศิลปะนานาชาติของเมืองที่ก็ได้รับการจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมด้วยเหมือนกัน สำหรับในปี 2013 เทศกาลศิลปะกลางแจ้งกรุงเอดินบะระเพิ่งจะฉลองครบรอบปีที่ 67 ไป ส่วนภาพนี้เป็นภาพของนักแสดงที่บนถนนรอยัลไมล์ กรุงเอดินบะระ สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม




เทศกาลน็อตติงฮิลล์คาร์นิวัล ในลอนดอน ถือเป็นเทศกาลพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 1964 โดยกลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกัน-แคริบเบียน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนสิงหาคม ท้องถนนในแถบตะวันตกของชานเมืองกรุงลอนดอนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันจากขบวนนักแสดงและวงดนตรีมากมาย ผู้เข้าร่วมงานกว่าล้านคนจะเดินทางมาร่วมกันเฉลิมฉลองจากทุกหนทุกแห่ง ภาพนี้นักแสดงสาวกำลังโพสต์ท่าถ่ายภาพในขณะที่เธอเดินพาเหรดผ่านไปตามท้องถนนในงานเทศกาลที่จัดไปแล้วเมื่อปี 2013



ตลอดเวลา 27 ปีที่มีการจัดงาน คงไม่มีงานเทศดาลศิลปะนานาชาติที่ไหนที่จะทั้งแปลกทั้งห่างไกลตัวเมืองได้เท่ากับงานเทศกาลเบิร์นนิงแมน หรือเทศกาลศิลปะหลุดโลก อีกแล้ว ในงานประจำปี 2013 มีผู้คนกว่า 68,000 คนมุ่งมั่นเดินทางไปไกลถึงเมืองแบล็คร็อคซิตี้ สถานที่จัดงานชั่วคราว ณ ใจกลางทะเลทรายแบล็คร็อคในรัฐเนวาดา สหรัฐฯ ห่างจากเมืองเรโนที่ใกล้ที่สุดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว ๆ 200 กม. เทศกาลเฉลิมฉลองยาวนานตลอดสัปดาห์เต็มไปด้วยงานแสดงศิลปะสด ๆ มากมาย และตัวงานจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งจะมีพิธีปิดเป็นการเผาหุ่นไม้เป็นกองเพลิงสูงตระหง่านดังเช่นในภาพบนนี้



ถ้านี่ไม่ใช่เทศกาลที่แปลกที่สุดของสเปนแล้วล่ะก็ มันจะต้องเป็นเทศกาลที่เละเทะที่สุดแน่ ๆ เทศกาลปามะเขือเทศ หรือ 'ลาโตมาตินา' เกิดขึ้นในวันที่ 28 สิงหาคม ณ เมืองบูญอล ใกล้ ๆ กับบาเลนเซีย จุดเริ่มต้นของงานเทศกาลสุดเพี้ยนนี้ค่อนข้างพร่าเลือน แต่น่าจะต้องย้อนกลับไปไกลถึงช่วงปี 1945 แม้ว่าตอนแรกจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้งานเทศกาลดังกล่าวก็มีผู้เข้าร่วมถึงกว่า 20,000 คนต่อปี มีการใช้มะเขือเทศปากันกว่า 130 ตัน เปลี่ยนถนนทั่วเมืองให้กลายเป็นสีแดง แต่เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอในการจัดงาน ทางเมืองจึงต้องเริ่มนโยบายขายตั๋วค่าเข้าร่วมงานสำหรับนักท่องเที่ยวนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป



ถ้าคุณชอบจิบเบียร์เย็น ๆ ในแก้วโต ๆ เห็นทีคุณจะต้องมุ่งหน้าไปยังเมืองมิวนิก อันเป็นสถานที่ที่จะมีการจัดงานเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ หรือเทศกาลเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คุณจะได้เห็นคนเดินไปเดินมาในชุดตามประเพณีดั้งเดิม แต่ละคนต่างก็จะถือแก้วเบียร์ขนาดใหญ่เกิน 1 ลิตรขึ้นไปทั้งสิ้น แล้วยังมีอาหารท้องถิ่นอื่น ๆ ให้ได้อิ่มอร่อยกันอีกมากมาย สำหรับในภาพนี้ผู้เข้าร่วมงานต่างพากันยื่นมือเพื่อคว้าแก้วเบียร์ในวันเปิดเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน



เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์กที่จัดขึ้นนาน 9 วัน (ตั้งแต่ 5 - 13 ตุลาคม) เป็นงานเทศกาลบอลลูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ดึงดูผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคน และจะมีบอลลูนรูปทรงต่าง ๆ มาร่วมจัดแสดงโชว์เหนือน่านฟ้าของรัฐนิวเม็กซิโกกว่า 750 ลูก ไฮไลท์ของงานก็คือการลอยบอลลูนในช่วงกลางคืน รวมไปถึงการแสดงลอยบอลลูนหมู่อย่างพร้อมเพรียงกันด้วย



ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เทศกาลกินเจหรือเทศกาลถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต จะต้องเป็นการกินเจที่น่าขนลุกขนพองที่สุด เชื่อกันว่าเทศกาลถือศีลกินผักที่ภูเก็ตเริ่มต้นย้อนไปไกลถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ซึ่งชาวจีนผู้อพยพมาได้สืบทอดประเพณีการละเว้นเนื้อสัตว์ในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี และจะช่วยให้ผู้ที่ถือศีลกินเจมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี แต่สิ่งที่ทำให้งานเทศกาลกินเจของที่ภูเก็ตนี้โด่งดังไปทั่วโลกก็คือ การแสดงที่ใช้สิ่งมีคมนานาชนิดเจาะทะลุตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของเหล่าม้าทรง อันมีความเชื่อว่าจะเป็นการขับไล่ความชั่วร้ายและนำพาโชคลาภมาสู่ชุมชน ดังเช่นในภาพนี้ที่ม้าทรงจากศาลเจ้าในหมู่บ้านกะทู้ เสียบทะลุผ่านผิวหนังที่เต็มไปด้วยรอยสัก ระหว่างการเข้าร่วมเทศกาลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม



ในวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี ทางตะวันตกของสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จะมีการจัดเทศกาลวิ่งวัวประเพณี (Pacu Jawi) ของชาวมีนังกาเบา ท่ามกลางลานแข่งขันที่เป็นทุ่งนาและโคลนของเมืองบาตุซังการ์ เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องจับหางวัวให้อยู่ในระหว่างที่ถูกลากโต้โคลนด้วยเท้าเปล่าหรือแผ่นกระดานไม้ ซึ่งต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งของวัวและคน รวมทั้งความสามารถในการทรงตัวอีกด้วย โดยวัวที่เข้าร่วมงานจะถูกนำไปประมูลขายหลังจบการแข่งขันต่อไป



เมื่อถึงสั้นเดือนตุลาคมของทุกปี เราจะได้เห็นผู้คนทั่วทั้งแถบประเทศลาตินอเมริกา ร่วมรำลึกให้เกียรติแก่บรรดาญาติมิตรที่ตายจากไปในงานเทศกาลวันแห่งความตาย (Dia de los Muertos) ซึ่งเป็นการผสมผสานประเพณีดั้งเดิมของชาวโคลัมเบียเข้ากับพิธีกรรมตามแบบของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่จะมีการจัดงาน 'วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย' ในวันที่ 1 พ.ย. และ 'วันวิญญาณในแดนชำระ' ในวันที่ 2 พ.ย. ภายในงานเทศกาลจะมีการเดินขบวนพาเหรด, ตกแต่งหลุมศพด้วยเทียนและโคมไฟสีส้ม อย่างเช่นในภาพนี้ที่ถ่ายที่เมือง Xoxocotlán ในเม็กซิโก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม



เทศกาลดิวาลี หรือเทศกาลแห่งแสงไฟ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในอินเดียสมัยโบราณ ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยว ระหว่างช่วงที่มีการจัดงาน ผู้คนจะร่วมกันเฉลิมฉลองที่ความดีสามารถเอาชนะความชั่วร้าย, ความสว่างไสวที่เอาชนะความมืดมน และความบริสุทธิ์ที่เอาชนะความจองหอง ด้วยการจุดเทียนแสดงถึงแสงสว่างนั่นเอง นอกจากนี้วันเทศกาลดิวาลียังถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวฮินดูอีกด้วย ส่วนภาพนี้กลุ่มหญิงม่ายชาวอินเดียรวมตัวกันจัดงานเทศกาลดิวาลีที่เมืองวรินดาวัน อินเดีย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน



เทศกาลคืนเล่นไฟ (บอนไฟร์ไนท์) จัดขึ้นทั่วทั้งประเทศ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนของทุกปี แต่ที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อ อ็อตเตอร์รี่ เซ็นต์แมร์รี่ ในเดวอน จะมีการจัดงานฉลองที่ดำเนินกันมาอย่างต่อเนื่องกว่า 400 แล้ว ซึ่งก็คือการที่ชาวเมืองจะลงแข่งขันแบกถังไม้ติดไฟ วิ่งไปตามถนนในเมือง และพวกเขาจะเลิกก็ต่อเมื่อไฟมันร้อนจนเกินกว่าที่จะอดทนได้หรือว่าถังไม้โดนไฟเผาจนแตกเสียหายซะก่อนเท่านั้น (ภาพนี้เด็กชายชาวเมืองร่วมแข่งขันในการแข่งรุ่นเยาว์ของปี 2013) สำหรับในที่อื่น ๆ ในอังกฤษแล้ว วันที่ 5 พฤศจิกายน จะเป็นที่รู้จักในชื่อของวัน 'กายฟอคส์ไนท์' ซึ่งตั้งขึ้นตามชื่อของชายผู้วางแผนขนระเบิดดินปืนเพื่อหมายจะระเบิดอาคารรัฐสภาของอังกฤษแต่ไม่สำเร็จ ตั้งแต่เมื่อปี 1605



เทศกาลวันแห่งหัวกะโหลก คือการผสมผสานความเชื่อแบบคนนอกศาสนาเข้ากับประเพณีของชาวคาทอลิก สืบทอดกันมาในหมู่ชาวโบลิเวียแอนดีส ในงานเทศกาลจะมีการจัดเตรียมอาหาร, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแม้แต่บุหรี่ ให้กับหัวกะโหลกของญาติผู้ล่วงลับ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ได้ให้การปกปักษ์รักษา สำหรับปี 2013 เทศกาลนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน ดังภาพนี้ที่ชายตัวแทนผู้ทำพิธีกำลังอัญเชิญหัวกะโหลกซึ่งได้รับการตกแต่งบูชา ภายในงานที่จัดขึ้นที่โบสถ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในกรุงลาปาซ ประเทศโบลิเวีย



อีกหนึ่งเทศกาลของคนไทยที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลกก็คือ เทศกาลบุฟเฟต์ลิง ที่ริเริ่มจัดเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1989 เพื่อหมายจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสู่จังหวัดลพบุรี ภายในงานจะมีการรวมเอาผลไม้, ผัก, เค้ก, ขนมหวาน ทั้งที่ถูกแช่อยู่ในรูปของก้อนน้ำแข็ง และที่นำมาจัดวางเรียงไปรูปทรงต่าง ๆ ทั้งหมดหนักรวมกันกว่า 4 ตัน ที่โบราณสถานพระปรางค์สามยอด ให้ลิงที่อาศัยอยู่ ณ บริเวณนั้นได้อิ่มหนำสำราญกันทุก ๆ ปี สำหรับปี 2013 งานเทศกาลนี้เพิ่งจัดไปในวันที่ 25 พฤศจิกายน



ถึงช่วงปีใหม่ ใคร ๆ ก็ต้องอยากเข้าร่วมงานปาร์ตี้เฉลิมฉลองกันให้สนุกสุดเหวี่ยง และเทศกาลปีใหม่ของชาวสกอต หรือเทศกาลฮ็อกมาเนย์ ก็จะจัดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่งตามท้องถนนของกรุงเอดินบะระที่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่กล้าออกมาท้าลมหนาวฉลองปีใหม่ หรือถ้าแค่นั้นยังไม่สาแก่ใจพอ คุณก็สามารถเข้าร่วมพาเหรดที่จะไปจบลงที่ริมแม่น้ำริเวอร์ฟอร์ธ อันเป็นที่ที่มีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะร่วมทำตามประเพณีลงว่ายน้ำในแม่น้ำที่เย็นยะเยือกจนเป็นน้ำแข็ง ส่วนภาพนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวได้รับของขวัญปีใหม่เป็นจุมพิตจากชาวเมืองที่เข้าร่วมงานในถนนพรินซ์สตรีท ระหว่างช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี 2008
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2013, 11:18:59 PM »

สถานที่สุดสวยจากทั่วโลก


เกาะซอลท์สปริง บริติชโคลัมเบีย แคนาดา



ต้นไซเปรสทอดเงาสะท้อนผืนน้ำ ใน จอร์จสมิธสเตทปาร์ค รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ



ทะเลทรายอะทาคามา ทางตอนเหนือของชิลี



Kleine Scheidegg ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



แสงเหนือที่นอร์เวย์



หมู่บ้านเคนมอร์ในสกอตแลนด์



ธารน้ำแข็ง Khumbu ประเทศเนปาล



ต้นชูการ์เมเปิล ที่เรดดิง เวอร์มอนท์



สะพานหินอายุ 500 ปีที่ Prizren โคโซโว



ถ้ำ Melissani ประเทศกรีซ



พระอาทิตย์ขึ้นที่เฮลซิงกิ



สะพานทาวเวอร์บริดจ์ที่ลอนดอน อังกฤษ



อาราม Roussanou ที่ใกล้กับ Meteora ประเทศกรีซ



เรือโดยสารที่คลองโครินเธียน ประเทศกรีซ



เรือในอ่าวฮาลอง เวียดนาม



เกาะเทียม Palm Jumeirah ที่ดูไบ สหรํฐอาหรับเอมิเรตส์



San Juan de Gaztelugatxe ประเทศสเปน



หมู่บ้าน Kalalau ที่ฮาวาย



โบสถ์ท่ามกลางหิมะ ที่เจนิสเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์



อุทยานแห่งชาตินอร์ธแคสเคด วอชิงตัน



ภูเขา Pico do Arieiro ตอนรุ่งเช้า




พระอาทิตย์ตกที่ทัสคานี อิตาลี
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2013, 10:12:05 PM »





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2013, 04:40:18 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 09:07:55 PM »



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2013, 04:44:38 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 21, 2014, 09:23:01 PM »














































บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: