|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #452 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 10:20:52 PM » |
|
พล่าปลาหมึก
ส่วนผสม
-ปลาหมึก 3 ตัว ตัวขนาดฝ่ามือวัดพร้อมหนวดก่ะเอาสักครึ่งโลได้ เลือกที่ตาใสๆๆ ไม่เหม็น ตัวไม่ผอมหรือแห้ง อย่าเลือกตาแตก ตาโบ๋ -หอมทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ มีขายสำเร็จแล้ว เก็บไว้ได้นานน้ะ -หอมแดงสอย 3-4 หัว สอยบางๆ สั้นๆ -ใบสาระแหน่ ล้างให้สะอาด พึ่ง สะเด็ดน้ำ ใส่ให้หอม สวยงาม เหมือนคนทำ อิ อิ -ตะไคร้ สัก 5-8 ต้น ลอกออกจนอ่อน ซอยๆบางๆ -ถั่วง หรือ อัลมอนล์ หรือ เม็ดมะม่วงหิมพาน ถ้าเขียนผิด เดี๋ยวมาแก้น้ะ เลือกตามฐานะ -น้ำปลา หรือจะใส่เป็น ซอลซีอิ๋วขาว สูตร1 -มะนาว สัก 2-3 ลูก เอาไว้ดับคาวปลาหมึกด้วย -เกลือ เล็กน้อย -พริกแห้งเม็ดเล็ก แล้วแต่ชอบเผ็ดไม่เผ็ด 5-8 เม็ด ล้างให้สะอา -น้ำพริกเผา เลือก หวานหอม เผ็ดกลางๆๆ ดมก็รู้น้ะ
วิธีล้างปลาหมึก ล้างน้ำก่อนสัก 2 ครั้ง ลอกเปลือกมัน พร้อมเอาตามันออก อย่าให้หมึกมันแตก ทำบ่อยๆจะรู้เอง ตัดให้กว้างๆหน่อย อย่าลืมเอาปากมันออกด้วย อยู่ตรงกลางหนวด ใช่ไหมเน้อ ล้างน้ำเกลือ สเด็ดน้ำ บีบมะนาวลงไปคลุกให้เท่าเบาๆ ทิ้งไว้ไปทำอย่างอื่นต่อ / ดับกลิ่นคาว แต่ เปลืองมะนาวเน้อะ หน้ามะนาวแพงก็อย่าไปกินมันเลย
วิธีทำ
-หาชามใหญ่ มาใส่ ตะไคร้สอยและหอมแดงซอย ใส่พริกแห้ง ฉีกมันครึ่งๆ รอก่อน -เอาน้ำใส่หม้อต้ม หันมาหั่นปลาหมึกที่ตาโบ๋แล้วไร้ปาก อิ อิ น้ำต้องเดือดน้ะต่ะเอง โรยเกลือลงไปหน่อย ใส่ปลาหมึกลงไป ตอนน้ำ เดือด นับ1-15 พอ อย่าเร็วและอย่าช้า ดับไฟ ตักขึ้นมาสเด็ดน้ำ ทำแบบนี้ปลาหมึกไม่เหนียว -นำปลาหมึกร้อนๆใส่ในชามตะไคร้ และหอมแดง พริกแห้ง ที่รออยู่ ความร้อนทำให้ทุกอย่างมันสุก นิดๆ -ใส่น้ำพริกเผา สัก2-3 ช้อนโต๊ะ คลุก โดยใช้กำลังภายในหน่อย มันจะเสร็จไหมเนี่ย -บีบมะนาว คลุกก่อน แล้วชิม ชอบแบบไหน เอา สองรส หวานน้ำพริเผากับเปรี๊ยวมะนาว พอได้แล้ว จะ ใส่ซอลสูตร 1 ตามชอบ -ได้ คลุกเคล้า แล้ว ชิม สามรสไหม? โรยถั่วตามฐานะลงไป ต่อด้วยหอมแดงกรอบ โรยตัวด้วยสาระแหน่ โรยให้สวยน้ะ -ชิม ครบหวาน มัน เค็ม เผ็ด ไหม ที่ไม่ให้ใส่น้ำปลา บางทีมันคาวน้ำปลา สู้ใส่เป็นเกลือดีสุด หรือซอล สูตร1 ลองดู -ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเลย เห็นไหม ประหยัด ตายช้าลงด้วย
ปล.ไม่มีรูปเพราะเอาไปกินหมดแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #453 เมื่อ: มีนาคม 05, 2014, 09:45:27 PM » |
|
เวลาเจ้าตัวน้อยกลับจากโรงเรียน คุณแม่ลองทำของหวาน อย่าง "ไอศครีม"อทานเล่นง่ายๆ ที่ได้รสชาติ วิตามินจากผลไม้สดๆ ดูซิคะ รับรองเจ้าตัวเล็กต้องเรียกร้องให้ทำบ่อยๆ แน่นอนเลยคะ เพราะเป็นไอศครีมที่ไม่เหมือนใครละคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #454 เมื่อ: มีนาคม 05, 2014, 10:32:47 PM » |
|
salmon : ส่วนผสม • เนื้อปลาแซลมอนสด 2 ขีด
ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด
• พริกขี้หนู 20 เม็ด • กระเทียมสด 10 กลีบ • รากผักชี 2 ราก • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ • น้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ • น้ำซุปไก่ 2 ช้อนโต๊ะ • หัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย 1 ช้อนโต๊ะ • ใบสะระแหน่ 5 - 6 ใบ • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด สำหรับตกแต่งจาน
วิธีทำ1. นำเนื้อปลาแซลมอนที่แช่แข็งไว้ออกมาหั่นเป็นชิ้นขนาดความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร มาหั่นเรียงไว้ในจาน
2. จัดการกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่จะช่วยให้แซลมอนเกิดอาการจี๊ดจ๊าด โดยการเอาพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีไปปั่นหรือตำให้ละเอียด แล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และเพิ่มรสชาติกลมกล่อมให้กับน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยน้ำซุปไก่
3. นำน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ได้นี้มาราดลงบนแซลมอนที่จัดวางไว้ในจาน จัดแต่งจานให้สวยงามด้วยเครื่องเคียงอย่างหัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย กระเทียมสด และพริกชี้ฟ้าแดง โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ก็เป็นอันเสร็จ กลายเป็นแซลมอนจี๊ดจ๊าดที่เป็นกับแกล้มได้อย่างดีทีเดียวเลยละ
ที่มา - happyfoodathome.blogspot.com
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #455 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 08:08:55 PM » |
|
น้ำพริกเผากากหมูส่วนผสม
กากหมูเจียวใหม่ๆ 1 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูแห้งคั่ว 100 กรัม
หอมแดงเผา 10 หัว
กระเทียมเผา 10 หัว
น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มหรือลดตามชอบ)
น้ำมันหมูหรือน้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. โขลกพริกขี้หนูแดงแห้งคั่วให้ละเอียด ถ้าต้องการให้ละเอียดเร็วขึ้นให้ใส่เกลือโขลกพร้อมกัน
2. ใส่หอมเผา กระเทียมเผา โขลกให้เข้ากัน
3. ใส่กากหมูเจียวใหม่ๆ ลงโขลกรวมกันจนเข้ากันดี
4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำส้มสายชู หรือจะใส่น้ำมะนาวแทนก็ได้
5. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันหมู ถ้ากลัวอ้วนใส่น้ำมันพืชแทน หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะในกากหมูก็มีน้ำมันอยู่แล้ว นำส่วนผสมทั้งหมดลงผัดให้หอม ชิมดู ให้เปรี้ยวนำเล็กน้อย
ใช้คลุกข้าวร้อนๆ รับประทานกับผักต่างๆ จะเป็นผักสดหรือผักต้มก็ได้ นอกจากรับประทานกับข้าวแล้วยังใช้ผัดกับผักต่างๆ หรือเก็บใส่ขวดโหลปิดให้สนิดไว้รับประทานได้นานหรือเก็บในตู้เย็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #456 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 08:25:07 PM » |
|
เห็ดหอมทอดซีอิ้ว วิธีทำ
นำเห็ดหอมสดมาหั่นครึ่ง หมักด้วยซีอิ้วขาวและพริกไทย ทอดในน้ำมันร้อนกลางๆ จนสุก ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #457 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 08:28:41 PM » |
|
ผัดหมี่ซั่ว ส่วนประกอบ
-หมี่ซั่ว 1 ห่อ 400 กรัม -ถั่วงอก 1 ถ้วยตวง -ต้นหอม ¼ ถ้วยตวง -แครอทหั่นเป็นเส้น ¼ ถ้วยตวง -เห็ดหอมแช่น้ำหั่นเป็นเส้น ¼ ถ้วยตวง -น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ -คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา -น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา -เนื้อหมูหั่นชิ้นบางพอคำ 100 กรัม -กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยป่นตามชอบ
วิธีทำ
นำหมูมาหมักกับน้ำมันหอย กระเทียม และพริกไทย และคนอร์อร่อยชัวร์เล็กน้อย พักไว้ ลวกเส้นหมี่ซั่วจนสุกแต่อย่าให้เละ เทใส่กระชอน แล้วล้างด้วยน้ำเย็น (เพราะเส้นหมี่เค็ม) ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่หมูที่หมักลงผัดจนสุก ใส่เห็ดหอม แครอท และเส้นหมี่ ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว คนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาลทรายผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่วงอก และต้นหอมลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ หมายเหตุ ถ้าไม่ใช้หมูหมักสามารถใส่แฮมหั่นชิ้นพอคำแทนได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #458 เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 09:33:31 PM » |
|
นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี
Yesterday · Edited
เมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพ "ถั่วเขียวต้มน้ำตาล"
เมนูคู่ครัว ถั่วเขียมต้มน้ำตาลเป็นขนมหวาน ที่แสนจะทำง่าย ถึงง่ายที่สุด ส่วนผสมก็น้อยที่สุด
แค่มีถั่วเขียวกับน้ำตาลทรายติดบ้านไว้ อยากกินขนมหวานเมื่อไร ก็ลุกขึ้นมาต้มกินได้ทันที แก้ขัดไปได้คะ
ถ้าจะทำให้ครบขั้นตอน ก็ต้องเอาถั่วเขียวไปคั่วในกระทะให้มีกลิ่นหอมก่อน แล้วก็แช่น้ำไว้ข้ามคืน แต่....
เราไม่เคยมีแผนการไว้ล่วงหน้าเลย ไม่เคยทำเลยคะ เพราะอยากกินเมื่อไหร่ก็ลุกขึ้นมาต้มเลย อาจต้มนานหน่อย
หม้อนี้เป็นการต้มในที่ทำงาน ใช้หม้อหุงข้าวต้ม แช่ถั่วเขียวไว้ตอนเที่ยง
แล้วไปต้มเอาเกือบเที่ยงของอีกวัน ใม่มีใบเตย ให้ใส่ ทำกันแบบง่าย ๆ ประหยัดค่าขนมตอนกลางวันคะ
แต่สูตร ที่ชอบกินมากกว่า จะเป็น สูตรถั่วเขียวต้มแบบใส่กะทิด้วย ใช้น้ำตาลปิ๊บแทนน้ำตาลทราย ตามนี้ http://http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=baanbaitong&month=04-2009&date=23&group=4&gblog=5
หรือจะทำเป็นถั่วเขียวต้มน้ำลำใย แบบนี้ก็หอม อร่อยคะ
แค่ต้มถั่วเขียวให้นุ่ม แล้วแยกถั่วไว้ ต้มน้ำลำใยใส่น้ำตาลทรายให้หวาน หอม
แล้วนำถั่วเขียวใส่ลงไปให้เดือดอีกครั้ง ก็ได้ถั่วเขียวต้มน้ำลำใยหวาน หอม ทานร้อน ทานเย็นก็ได้ทั้งสองแบบคะ
ส่วนผสม
1. ถั่วเขียว 1 ถ้วย 2. น้ำตาลทราย ประมาณ 1 ถ้วย 3. น้ำสะอาด 5 ถ้วย 4. ใบเตย 2-3 ใบ (ถ้ามี)
วิธีทำ
1. นำถั่วล้างและแช่น้ำข้ามคืน
2. จากนั้นเทน้ำที่แช่ถั่วออก ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง นำถั่วใส่หม้อ ใส่น้ำสะอาด 5 ถ้วย ใส่ใบเตย (แต่เราไม่มีใบเตย)
แล้วนำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดก็ลดไฟลง ชอนฟองออกให้หมด ต้มจนถั่วนุ่มตามที่ต้องการ
บางคนอาจชอบแบบเป็นเม็ด ๆ แต่นิ่ม หรือจะชอบแบบถั่วบาน ๆ ก็แล้วแต่
3. ใส่น้ำตาล เราใช้น้ำตาลทรายแดง จะหอมกว่าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์
**การใส่น้ำตาล ต้องรอให้ถั่วเขียวนิ่ม เท่าที่ต้องการก่อนนะคะ ไม่งั้นเมื่อใส่น้ำตาลแล้ว น้ำตาลจะรัด ทำให้เมล็ดถั่วเขียวจะไม่นิ่มแล้ว
4. พอได้ที่แล้วลองชิมดู ถ้าชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลไปอีก กินตอนร้อน ๆ หรืออุ่น ๆ
สรรพคุณ / ประโยชน์ของถั่วเขียว
- เมล็ด นำมาต้มแล้วกินเป็นยาขับปัสสาวะ สำหรับคนที่เป็นโรคเหน็บชา
ส่วนถั่วเขียวที่ดิบหรือที่ต้มสุกแล้วใช้ตำพอกเป็นยารักษาภายนอกช่วยบ่มหนองให้ฝีสุก
- เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ
- ถั่วเขียวเป็นพรรณไม้ที่ให้ประโยชน์มากทั้งทางด้านอาหารและในด้านที่ใช้เป็นยา
เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกจะให้วิตามินเอ บี และซีสูงมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=baanbaitong&month=26-01-2011&group=4&gblog=17 See Translation

|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #459 เมื่อ: เมษายน 10, 2014, 01:33:43 PM » |
|
ชอบกินแบบไหนกันบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #460 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2014, 06:24:24 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #461 เมื่อ: มีนาคม 07, 2015, 10:40:53 AM » |
|
ปลากะพงนึ่่งมะนาวกระเทียมดอง เครื่องปรุงและส่วนผสม
ปลากะพงขนาดกลาง 1 ตัว กระเทียมสับ 4 ช้อนโต๊ะ กระเทียมดอง 1/4 ถ้วยตวง พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา
วิธีการทำ ปลากะพงนึ่งมะนาวกระเทียมดอง
1. ล้างปลากะพงให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ
2. วางปลาลงในจานนำไปนึ่งให้สุก
3. ผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปีบเล็กน้อยให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้รสจัด เปรี้ยว เค็ม หวาน เทราดบนตัวปลา ตกแต่งด้วยกระเทียมดองและต้นหอมเล็กน้อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #462 เมื่อ: มีนาคม 29, 2015, 12:25:23 PM » |
|
ยำปลาทู ยำ ถือเป็นอาหารที่มีรสเฉพาะตัว คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด มีส่วนประกอบหลักคือ เนื้อสัตว์ หรือพืชผักบางชนิดนำมาคลุกปรุงกับน้ำยำ ยำปลาทูเข้ากันได้ดีกับใบชะพลู ปลาทูที่นำมายำจะเป็นปลาทูสดหรือปลาทูนึ่งก็ได้ แต่ควรนำมาย่างไฟ เพราะจะได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ไม่เพี้ยน หากนำไปทอดในน้ำมันเมื่อนำมายำจะได้รสและกลิ่นของน้ำมันทำให้ไม่หอมเท่าการย่าง ที่สำคัญเราจะได้ไม่ต้องกินน้ำมันมากเกินไปเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ นับว่าเมนูนี้เหมาะแก่การควบคุมน้ำหนัก (เครดิตภาพ : ดงละดอน, เขียนบน iPad (nr..con), rutesala) วิธีทำ :>> http://bit.ly/1nnJoNW
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|