jainu
|
 |
« ตอบ #105 เมื่อ: มีนาคม 17, 2010, 06:49:29 PM » |
|
 สวัสดีค่ะ เบาหวานกับสุขภาพในช่องปาก  พ.ต.ท.ทพ.พจนารถ พุ่มประกอบศรี เบาหวานทำให้ร่างกายมีความสามารถในการป้องกันตัวเองจ ากการติดเชื้อน้อยลง ดังนั้นจึงพบคำถามเกี่ยวกับช่องปากจากคนที่เป็นเบาหว านอยู่บ่อยๆ
ปัจจุบันนี้มีผู้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถดำรงชีวิตได ้ตามปกติ หากดูแลรักษาสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่า งเคร่งครัดและสม่ำเสมอ คนที่เป็นเบาหวานนั้นจะต้องตระหนักว่าผลข้างเคียงอาจ มีผลหรือสร้างปัญหาต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ ที่สำคัญเบาหวานทำให้ร่างกายมีความสามารถในการป้องกั นตัวเองจากการติดเชื้อน้อยลง คือ ติดเชื้อง่ายขึ้นและแผลหายช้า ดังนั้นผมจึงพบคำถามเกี่ยวกับช่องปากจากคนที่เป็นเบา หวานอยู่บ่อยๆ เช่น
เป็นโรคเบาหวานถอนฟันได้หรือไม่? ทำไมคนเป็นเบาหวานเป็นโรคเลือดออกได้ง่าย? ทำไมเป็นเบาหวานแล้วเกิดแผลในช่องปากบ่อยๆ? ดังนั้นเราควรมาเรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ของโรคเบาหวา นกับสุขภาพในช่องปาก เพื่อควบคุมปฏิบัติให้ถูกต้อง ก็จะช่วยให้มีความสุขในการใช้ฟันเคี้ยวอาหารและลดเรื ่องยุ่งยากลงได้อย่างมากทีเดียวครับ
ปัญหาสุขภาพในช่องปากที่มักสัมพันธ์ไปกับโรคเบาหวานม ีอะไรบ้าง
ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ปัญหาต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติ การติดเชื้อราในช่องปาก การติดเชื้อและเป็นแผลแล้วหายช้า การรับรู้รสเสียไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรได้รับการตรวจเช็คสุขภาพเป็ นประจำ และควรมีข้อมูลเหล่านี้ให้ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่ไ ปทำฟันเพื่อที่ทันตแพทย์จะได้เตรียมการรักษาให้เหมาะ กับคุณ
ถ้าคุณพบว่าเป็นเบาหวานอย่าปิดบังเพื่อจะได้ทำฟัน หลายท่านเข้าใจว่าถ้าบอกหมอว่าเป็นเบาหวานหมอจะไม่ทำ ฟันให้ คุณได้รับการรักษาเบาหวานและอยู่ในความดูแลของแพทย์อ ยู่ มียาอะไรบ้างที่ใช้อยู่ อาหารและฟันผุ หากคนที่เป็นเบาหวานปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมน้ำตาลให้ ดี ปริมาณน้ำตาลที่สูงขึ้นในเลือด ในน้ำลาย ช่วยให้แบคทีเรียในช่องปากเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นนั้ น หมายถึงโอกาสที่เกิดโรคฟันผุและเหงือกอักเสบก็ง่ายขึ ้นด้วย คนที่เป็นเบาหวานจึงต้องหมั่นรักษาความสะอาดในช่องปา กให้มากๆ นั้นคือ แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ ทำความสะอาดตามซอกฟัน เพื่อลดคราบอาหารที่เป็นส่วนช่วยเสริมทำให้เกิดฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ คราบอาหารหรือขี้ฟัน ถ้าไม่ถูกขจัดออกปล่อยทิ้งสะสมไว้ มันจะรวมตัวกันเป็นหินปูน ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและติดเชื้อในช่องปา กได้ง่ายขึ้น ก็เพราะว่า เบาหวานลดการป้องกันการติดเชื้อของร่างกายลง เหงือกและกระดูกรองรับรากฟันก็จะถูกกระทบเช่นกัน คนที่เป็นเบาหวานจึงเกิดโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายและสู ญเสียฟันไปอย่างรวดเร็ว ถ้าดูแลไม่ถูกต้อง เราพบว่าคนเป็นเบาหวานที่ไม่สนใจควบคุมระดับน้ำตาลใน เลือดจะเกิดโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายและรุนแรงถึงขนาดส ูญเสียฟันไปได้ง่ายกว่าคนที่เป็นเบาหวานแต่ได้รับการ ควบคุมอย่างดี
ถ้าหากคุณพบว่ามีอาการเหล่านี้ต้องรีบไปพบทันตแพทย์ท ันที
เหงือกมีเลือดออกบ่อยๆ และง่าย เหงือกอักเสบแดง และเจ็บ มีหนองอยู่ตามซอกเหงือก มีกลิ่นปาก ฟันโยก ฟันปลอมที่ใส่อยู่หลวม การติดเชื้อรา ปกติแล้วในช่องปากก็มีแบคทีเรียและเชื้อราอยู่ แต่ร่างกายปกติสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ในสภาพที่มีเบาหวานนั้นการเปลี่ยนแปลงและการป้องก ันนี้ลดลง เชื้อราในช่องปากจึงมักปรากฎบ่อยๆ ในคนเป็นเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูบบุหรี่ คนที่ใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ เมื่อคุณเป็นเบาหวานมีรายละเอียดที่แตกต่างไปจากปกติ ที่ต้องให้ความสนใจ คือ การดูแลรักษาสุขภาพในช่องปากให้สะอาดอย่างจริงจัง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ นั่นคือ คุณเองต้องขยันแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารทุกมื้อ ใกล้ชิดหมอฟันมากหน่อย ตรวจฟันทุกๆ 3 เดือน ทำความสะอาดขูดหินปูนอย่าให้คราบหินปูนเกาะตามขอบเหง ือกและฟัน ควบคุมอาหารหวานและแป้งที่ง่ายต่อการเกิดโรคเหงือกแล ะฟันผุ หัดเป็นคนช่างสังเกตุว่ามีอะไรสิ่งผิดปกติในช่องปาก เลือดออกง่าย ฟันโยก เสียวฟัน ก็รีบพบทันตแพทย์ทันที เมื่อจำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อรักษาฟัน คุณควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่าให้สูงมาก บางครั้งแพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะก่อนทำทันตกรรมเพื่อล ดการเสี่ยงการติดเชื้อ จะเห็นได้ว่าคนที่เป็นเบาหวานนั้น ถ้าหากเข้าใจลักษณะที่มากับโรคนี้และมีผลกระทบกับช่อ งปากอย่างไรแล้วสามารถควบคุมได้ ก็จะช่วยลดผลแทรกซ้อน และคุณก็จะมีสุขภาพในช่องปากที่ดีสามารถใช้ฟันบดเคี้ ยวอาหารได้อย่างมีความสุขครับ ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #106 เมื่อ: มีนาคม 17, 2010, 06:51:35 PM » |
|
 สวัสดีค่ะ ติดเรียนอยู่น้ะค่ะ นานๆๆมาโพสขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #107 เมื่อ: มีนาคม 30, 2010, 09:52:45 PM » |
|
 สวัสดีค่ะ ส่ายจัยสุขภาพมั่กๆๆๆน้ะก๊ะ อากาศเปลี่ยนปาย เปลี่ยนมา ดื่มน้ำสะอาดมั่กๆๆทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนหั้ยเพียงพอ เตรียมตัวไว้เล่นน้ำน้ะก๊ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #108 เมื่อ: มีนาคม 30, 2010, 09:58:39 PM » |
|
วิธีป้องกันอาการท้องผูก ใครที่ประสบปัญหาอาการท้องผูกเป็นประจำ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์ป้องกันอาการท้องผูกมาบอก... - หลีกเลี่ยงอาหารเส้นใยต่ำ โดยเฉพาะอาหารประเภทน้ำตาลและแป้งขัดสี อย่างเช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว ขนม เนยแข็ง ไข่
-ทานอาหารที่มีเส้นใยสูง โดยเฉพาะผัก ถั่ว ผลไม้ เพราะจะช่วยให้ระบบการเผาผลาญและระบบการขับถ่ายดีขึ้ น
-ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
-หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการทานยาระบาย
-ฝึกนิสัยขับถ่ายให้เป็นระบบ
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ
เพียงเท่านี้ อาการท้องผูกก็จะค่อยๆหายไป.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #110 เมื่อ: เมษายน 07, 2010, 03:55:54 PM » |
|
Sa wet Dee Kha  nujai mai dai kow ma Update lay tong koung a-pai doi na ka eat good food ,drink alot of water and relax take care too think of you na ja thanks
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
cupid
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 455
|
 |
« ตอบ #111 เมื่อ: เมษายน 20, 2010, 01:03:24 AM » |
|
Sa wet Dee Kha  nujai mai dai kow ma Update lay tong koung a-pai doi na ka eat good food ,drink alot of water and relax take care too think of you na ja thanks  long long time ago miss u 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #113 เมื่อ: เมษายน 26, 2010, 05:11:24 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #114 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 08:37:09 PM » |
|
 sa wet dee kha hai nah pai nun kid teung gun mai kha 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #115 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 08:47:09 PM » |
|
อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ ! ระวังอายุจะไม่ยืน เพราะกลัวร้อนเกินไป
ที่มาจาก ForwardMail
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ตามผลการวิจัย แผงหน้าปัทม์ ( คอนโซล ) เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น ( อย่างที่คุณได้กลิ่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ " โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถใหม่ " : ผู้แปล )
นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้
ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร /ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตารางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่ม มีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ (ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส) ( ในเมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว : ผู้แปล ) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 - 4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า
คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษ ที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ไ ด้
ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า ให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข ้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง จะได้ลดปริมาณลง
ที่สำคัญ ช่วยประหยัดน้ำมัน และรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้ทำงานได้ยาวนานขึ้นด้วยจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #116 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 09:03:02 PM » |
|
ผู้ใช้งานขณะนี้ 37 บุคคลทั่วไป, 2 สมาชิก ผู้ใช้เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา: nujai, Icy  2 kon 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #117 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 06:38:19 PM » |
|
ดื่ม"กาแฟ"เป็นอาหารเช้า ระวัง"คอเลสเตอรอล"พุ่ง  มีหลักฐานหลายอย่าง หลายครั้ง ที่ชี้ว่า สำหรับคอกาแฟ ที่ชอบดื่มกาแฟเป็นอาหารเช้า อาจจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอล LDL หรือคอเลสเตอรอลที่เป็นโทษต่อร่างกายมีระดับเพิ่มขึ้ น
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้ดื่มกาแฟแบบไม่ผ่านฟิลเตอร์ (กระดาษกรองหรืออุปกรณ์กรอง) มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบที่ว่านี้มากกว่าผู้ดื่มกาแ ฟแบบผ่านฟิลเตอร์ ซึ่งคนอเมริกันส่วนใหญ่ดื่มกาแฟแบบผ่านฟิลเตอร์ (ผู้เขียนไม่แน่ใจว่ากาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อดังๆ แบบที่ตักแล้วละลายในน้ำร้อนได้เลยที่บ้านเรานิยมกัน เข้าข่ายกาแฟที่ไม่ผ่านฟิลเตอร์หรือไม่)
ผู้มีความเสี่ยงจาก การเพิ่มของคอเลสเตอรอล ก็คือกลุ่มที่ดื่มกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ หรือกาแฟแบบใช้เครื่องกดที่คนยุโรปหรือฝรั่งเศสนิยมใ ช้ ที่เรียกว่า percolator
เหตุที่ผู้ดื่มกาแฟผ่านฟิลเตอร์ มีความเสี่ยงน้อยกว่าก็เพราะในกาแฟจะมีสารที่เชื่อกั นว่าจะไปเพิ่มคอเลสเตอร อลในร่าง กาย เมื่อผ่านฟิลเตอร์ สารที่ว่านี้จะถูกกรองหรือทำให้น้อยลง
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าใครที่ดื่มกาแฟแบบไม่ผ่านฟิล เตอร์ ควรได้รับการตรวจคอเลสเตอรอลอย่างสม่ำเสมอ แต่กระนั้นก็ตามอย่าเพิ่งตกอก ตกใจไป เพราะอันตรายจากกาแฟนี้ ยังน้อยกว่าคอเลสเตอรอลที่มาจากสาเหตุอื่น เช่น การสูบบุหรี่ การมีความดันเลือดสูง หรือการมีน้ำหนักตัวมากเกินไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #118 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2010, 12:13:53 PM » |
|
ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด
วิธีออกกำลัง กายให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดที่แตกต่าง เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและใจ ไม่ทำให้ร้ายกล้ามเนื้อเพราะการออกกำลังกายอย่างหักโหม วันนี้ ยืดเส้นยืดสาย เตรียม
เริ่มจากเลือดกรุ๊ปเอ ควรออกกำลังกายแบบช้า ๆ ออกแรงไม่มาก เช่น โยคะ ไท้เก๊ก ชี่กง เพราะมีโครงกระดูกเล็ก หักง่าย สืบเนื่องจากอาหารที่เหมาะสมของคนเลือดกรุ๊ปเอ คือ อาหารประเภทมังสวิรัติ หรือรับประทานเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อย
ส่วนเลือดกรุ๊ปบี ที่รับประทานอาหารทั้งผักทั้งเนื้อสัตว์ได้ในสัดส่วนที่เท่ากัน จึงมีความว่องไว ให้ออกกำลังกายอย่างสมดุล ไม่หักโหมหรือเชื่องช้าเกินไป เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ กอล์ฟ ปิงปอง
สำหรับผู้ที่มีเลือด กรุ๊ปเอบี เปรียบเสมือนส่วนผสมของกรุ๊ปเอและบี ให้สังเกตตนเองว่ามักเลือกรับประทานอาหารของกรุ๊ปเอ หรือกรุ๊ปบีมากกว่ากัน เมื่อทราบแล้วก็ให้ออกกำลังกายตามลักษณะของเลือดกรุ๊ปนั้น แต่ก็ควรเพิ่มการออกกำลังกายในแบบที่เหมาะกับเลือดอีกกรุ๊ปด้วย เช่น มักรับประทานผักและผลไม้อย่างคนเลือดกรุ๊ปเอ ก็ให้ออกกำลังกายแบบช้า ๆ เป็นหลัก และเสริมด้วยการออกกำลังกายของคนเลือดกรุ๊ปบีบ้าง
ขณะที่ คนเลือดกรุ๊ปโอ เหมาะสมกับการออกกำลังกายชนิดที่ต้องออกแรงมาก เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วิ่งทางไกล ชกมวย เนื่องจากสภาพร่างกายสามารถบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงและผักได้ในปริมาณ มาก ทำให้มีโครงกระดูกที่แข็งแรง กล้ามเนื้อกระชับแน่น
ไม่ว่าคุณจะ มีเลือดอยู่ในกรุ๊ปใด ต้องไม่ลืมการเดินเร็ว 10 นาที หลังจากออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือดทุกครั้ง นอกจากนี้ยังควรออกมายืดเส้นยืดสายเคลื่อนไหวร่างกายให้ผิวหนังถูกแสงแดดราว 20 - 30 นาที ในช่วงเวลา 11.00 - 14.00 น. เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมีรังสียูวีในระดับเข้มข้น ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดี 3 เพื่อช่วยลำเลียงแคลเซียมและแร่ธาตุต่าง ๆ ไปยังกระดูก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นมะเร็งผิวหนัง หากไม่ได้ออกมารับแสงแดดด้วยการนอนอาบแดดอยู่เฉย ๆ กับที่ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง.
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
Neung99k
|
 |
« ตอบ #119 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2010, 08:22:13 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|