Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 18   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: read read readingggggggggggggg  (อ่าน 12771 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #180 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:32:47 PM »


มินิซีรี่ส์
 16. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

The New York Timesทำแผนที่electoral ที่ฮิลลารี่ได้รับการโหวตจากคนอเมริกัน ปรากฎว่าพื้นที่ที่เธอชนะมีน้อย หรือเบาบางมาก แม้ว่าโดยภาพรวมของคะแนนนิยมแล้วฮิลลารี่จะได้62,889,711เสียง (47.74%) เทียบกับทรัมป์ที่ได้น้อยกว่าคือ61,529,379เสียง (46.71%)

thanong
 18/11/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #181 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:33:47 PM »


มินิซีรี่ส์
 17. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

แผนที่electoral mapที่ทรัมป์ชนะ เรียกได้ว่าชนะแบบถล่มทลาย เพราะว่าทรัมป์ชนะประมาณ85%ของพื้นที่เลือกตั้งทั้งหมด

The New York Timesต้องกลับมาทำรายงานศึกษาเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ใหม่ เพราะว่าตลอดเวลาของการแคมเปญ สื่อที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของสหรัฐค่ายนี้รายงานภาพลักษณ์ที่สวยหรูให้ฮิลลารี่มาตลอด และฟันธงว่าฮิลลารี่จะชนะอย่างท่วมท้น ปรากฎว่าผลการเลือกตั้งออกมาตรงกันข้าม ทำให้New York Times ต้องออกมาขอโทษคนอ่าน ว่ารายงานการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างบกพร่องโดยสุจริต

ค่ายของฮิลลารี่ได้ออกมาโวยวายว่าไม่แฟร์หรือไม่ยุติธรรม มีความเคลื่อนไหวให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีตัดสินด้วยคะแนนนิวยมจากประชาชนโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม วิธิีการเลือกตั้งทางอ้อมของสหรัฐที่ใช้คะแนนelecoral ตัดสินถือว่ายุติธรรมดี เพราะว่าการตัดสินผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอาศัยคะแนนของผู้เลือกประธานาธิบดีในแต่ละรัฐมันสะท้อนภาพรวมของประเทศเป็นอย่างดี

ฮิลลารี่ชนะคะแนนความนิยม เพราะว่าเธอได้เสียงจากประชาการที่อยู่ตามเมืองใหญ่มากกว่าอย่างท่วมท้น เช่นที่แอล เอ ซาน ปราซิสโก หรือนิวยอร์ค แต่คนที่นั้นไม่ได้เป็นตัวแทนของคนอเมริกันทั้งประเทศ การเลือกตั้งแบบอิงelectoral college เพื่อที่จะปรามเสียงของคนเมืองที่กระจุกตัวในไม่กี่รัฐนั้นเอง

thanong
 18/11/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #182 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:34:28 PM »


มินิซีรี่ส์
 18. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรัมป์รับมรดกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากพ่อที่บรุ๊คลิน นิวยอร์ค ก่อนที่จะเดินหน้าผันตัวเองเป็นเจ้าพ่ออสังหาฯในนิวยอร์ค และกลายเป็นเศรษฐกิจพันล้านเหรียญเมื่อมีอายุเพียง 30ปีกว่าๆเท่านั้นเอง

ฟังทรัมป์ให้สัมภาษณ์สื่อCBS และNBCตอนที่เขาเพิ่งจะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาฯอย่างหาตัวจับยาก

ต้องยอมรับว่าทรัมป์เป็นคนหล่อ ฉลาดหลักแหลมมาก กล้าได้กล้าเสีย คิดการใหญ่ ไม่ธรรมดาจริงๆ

https://www.youtube.com/watch?v=yA9DbobRmMU

https://www.youtube.com/watch?v=RRnaNUuL50k

thanong
 18/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #183 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:36:23 PM »


มินิซีรี่ส์
 19. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรัมป์ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมลับ

ในเดือนมีนาคมปี 2016นี้ Newt Gingrich อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรครีพับรีกัน พูดชัดเจนในการให้สัมภาษณ์กับFox News ว่า พวกEstablishmentหรือผู้มีอิทธิพลของพรรครีพับรีกันกำลังระส่ำระส่ายที่ทรัมป์จะมีโอกาสเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะว่า: "ทรัมป์เป็นคนนอก เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอิทธิลที่คุมพรรค ไม่มีใครคุมเขาได้ เขายังไม่เคยเข้าพิธีกรรมสาบานตน เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมลับ
 "He is an outsider. He is not them. He is not part of the club. He is uncontrollable. He has not been through the initiation rites. He did not belong to the secret society." https://www.youtube.com/watch?v=Z8LJVDM9xVc

ปัญหาของทรัมป์อยู่ตรงนี้เองที่เขาไม่เป็นที่ยอมรับของผู้มีอิทธิพลของพรรครีพับรีกัน เพราะว่าเขาไม่เคยเข้าพิธีสาบานเพื่อเป็นสมาชิกของสมาคมลับ
 คำพูดของNewt Gingrichสะท้อนให้เห็นว่าพรรครีพับรีกันมีเจ้าของคือสมาคมลับ
https://www.facebook.com/ThanongFanclub/posts/446719528857760

ดูกันต่อไปแล้วจะเห็นว่า ทรัมป์เป็นเพียงโอบามาผิวขาว เขาไม่ได้เป็น คนนอกจริงที่จะเข้ามาปฏิวัติวอชิงตัน หรือเข้ามาเพื่อล้มล้างระบบอิทธิพลเก่าที่ครอบงำการเมืองสหรัฐมาตลอดผ่านการสร้างภาพลวงตาของความขัดแย้งระหว่างรีพับรีกัน-เดโมแครต ที่ความจริงแล้ว รับใช้กลุ่มผลประโยชน์หรือนายทุนคนเดียวกัน

thanong
 19/11/2016

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #184 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:38:37 PM »

มินิซีรี่ส์
 20. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

เป็นไปได้ว่า นางแม่มดฮิลลารี่แพ้ เพราะว่าเธอคิดจะรวบอำนาจแต่ผู้เดียว โดยร่วมมือกับโอบามาและบิล พวกรัฐบาลเงา (Shadow Government) ย่อมต้องไม่ชอบใจ จึงวางแผนต้มนางแม่มดจนเปื่อย โดยให้คำมั่นว่าจะยกทำเนียบขาวให้เธอ ทำให้นางแม่มดยิ่งยะโสจองหองจนไม่เฉลียวใจเลยว่า พวกรัฐบาลเงามีแผนแทงเธอข้างหลังโดยแอบหนุนทรัมป์ขึ้นมา

ไม้ตายที่ลงดาบนางแม่มดคือให้เอฟบีไอออกมาขู่จะฟ้องแล้วไม่ฟ้องฮิลลารี่ ในช่วง11วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำให้เกิดภาพว่านางแม่มดอยู่เหนือกฎหมาย นายJames Comey ผู้อำนวยการเอฟบีไม่ได้เป็นใครอื่น แต่เป็นเด็กของพวกบุชนั้นเอง

นางแม่มด บิลและโอบามากำลังเลียแผลด้วยความเจ็บปวด เพราะว่าฝันค้างคิดว่าจะสามารถรวบอำนาจได้แล้วจะต่อรองกับรัฐบาลเงาทีหลัง แต่อำนาจมืดหรือจะยอมเสียเหลี่ยม ต้องสั่งสอนนางแม่มดให้เป็นตัวอย่าง แม้ว่านางแม่มดจะรับใช้รัฐบาลเงาอย่างซื่อสัตย์ก็ตาม แต่นางดูกระหายอำนาจมากจนเกินไป ถ้าจะใช้งานต่อไปอาจจะถูกต่อต้าน ทางที่ดีเอาทรัมป์มาขัดตาทัพก่อนจะดีกว่า

เมื่อนางแม่มดล้ม บุชอาจจะช่วยกระทืบซ้ำก็เป็นไปได้ ทั้งๆที่บุชและคลินตันเป็นพวกเดียวกัน มีนโยบายเดียวกันในการ

1. รับใช้พ่อค้าอาวุธ+ทหาร (US Military Industrial Complex)

2. เอื้อประโยชน์ให้นายแบงก์วอลล์สตรีทและไม่แตะต้องการทำงานของธนาคารกลางUS Federal Reserveที่พวกรัฐบาลเงาเป็นเจ้าของ

3. แต่งตั้งครม. หรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงตามรายชื่อที่Council on Foreign Relationsที่พรรคพวกของรัฐบาลเงาสุมหัวกันอยู่ที่นั้น ส่งมา

4. ล้มรัฐบาลทุกประเทศที่ดื้อรั้นต้องการรักษาอำนาจอธิปไตยของตัวเอง โดยปฏิเสธที่จะทำตามนโยบายต่างประเทศ+ความมั่นคงที่วอชิงตันดีซีสั่งลงมา

5. ก่อสงครามอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของระเบียบโลกใหม่ (New World Order)

พวกรัฐบาลเงาสร้างภาพลวงตาของความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างฝ่ายขวาของพรรครีพับรีกัน (conservative)และฝ่ายซ้่ายของพรรคเดโมแครต (liberal) โดยให้ทั้ง2ค่ายออกโรงโจมตีกัน เขียนนโยบายหรือเขียนตำราแข่งกัน เพื่อชูจุดเด่นของตัวเอง และวิจารณ์จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม แต่เอาเข้าจริงแล้ว ทั้งรีพับรีกันและเดโมแครตต่างทำงานรับใช้รัฐบาลเงาเจ้าของเดียวกัน

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี2016 ทรัมป์ถูกวางหมากให้เป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลงในขณะที่ฮิลลารี่เป็นตัวแทนของความต่อเนื่อง ทรัมป์พูดตามบทให้เกิดความแตกแยก เพื่อย้อนยุคกลับไปหาคนผิวขาวที่ถือว่าตัวเองเป็นเจ้าบ้านของอเมริกาที่แท้จริง พวกผิวดำ พวกลาติโน หรือพวกตาเล็กเอเชียเป็นแค่ผู้อาศัย

ที่สำคัญ เวลาทรัมป์พูดถึงมุสลิม เขาให้ความรู้สึกว่า มุสลิมทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย

เวลาพูดถึงเม็กซิโก เขาสร้างภาพว่าคนเม็กซิกันเป็นพวกค้ายาเสพติด ก่ออาชญากรรม ที่ต้องการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเพื่อทำในสิ่งที่เลวร้ายให้คนผิวขาว

นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน (America First)ของทรัมป์เป็นการส่งสัญญาณว่าไม่เอาโลกาภิวัฒน์ เหมือนกับที่อังกฤษได้โหวตBrexitทั้งๆที่ทั้ง2ประเทศนี้เป็นเจ้าของทฤษฎีโลกาภิวัฒน์ที่ต้องการบีบทุกประเทศในโลกให้เปิดประเทศเพื่อรับเอาประชาธิปไตย การค้าเสรี การเงินเสรี ขายรัฐวิสาหกิจออกไป และเซ็งลี้ทรัพยกรธรรมชาติของตัวเองให้กลุ่มทุนข้ามชาติที่รัฐบาลเงาอยู่เบื้องหลัง

ความจริงนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของทรัมป์เป็นนโยบายที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก เพราะว่าอเมริกาเป็นเจ้าโลกอยู่แล้ว ได้ประโยชน์จากโลกมากมายมาเป็นเวลา70ปีในการใช้ทรัพยากรของโลกอย่างฟุ่มเฟือยตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2 แต่ตอนนี้อเมริกายังคงได้ประโยชน์อีกต่อไปอย่างไม่รู้จักพอ

ที่สหรัฐ ทรัมป์เป็นตัวแทนของลัทธิชาตินิยม America First ส่วนที่อังกฤษ ตัวแทนของลัทธิชาตินิยมคือNigel Farage แห่งพรรคอิสระ (UK Independence Party) ที่เป็นผู้เล่นหลักในการแคมเปญให้อังกฤษโหวตประชามติออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ทั้งคู่เล่นบทเดียวกันในเวลาเดียวกันของการเผชิญหน้าระหว่างพวกรัฐบาลเงา(Shadow Government) กับคู่อริที่ยังไม่ยอมก้มหัวให้วอชิงตัน และลอนดอน คือรัสเซีย จีน อิหร่านและเกาหลีเหนือ

สหรัฐและอังกฤษสร้างโลกาภิวัฒน์ได้ ก็สามารถทำลายโลกาภิวัฒน์ได้เหมือนกัน การสร้างโลกาภิวัมน์ก็เปรียบเหมือนการต้อนฝูงควายเข้าคอกรอวันถูกเชือดทีละตัวสองตัว การทำลายโลกาภิวััมน์ก็เหมือนกับการโยนระเบิดเข้าไปในคอกวัวเพื่อให้วัวแตกตื่น แพนิกหนีตายเอาเขาชนรั้วเพื่อแหกคอก เสร็จแล้วฝูงวัวจะอ่อนแอลง เมื่อนั้นจะมีผู้นำฝูงคนใหม่จะนำพาฝูงวัวไปตายแทนด้วยการไปเผชิญหน้ากับหมีขาวและมังกรโดยที่ไม่มีทางที่จะขัดขืนได้
 thanong
 19/11/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #185 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:40:03 PM »

มินิซีรี่ส์
 21. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ความผิดพลาดที่ร้ายแรงของนางแม่มดฮิลลารี่และโอบามาในช่วงที่ผ่านมาคือการเปิดศึก2ด้านกับรัสเซียและจีนพร้อมๆกัน ถือว่าเป็นนโยบายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผิดพลาดเป็นอย่างยิ่งในยุค3ก๊กสมัยใหม่

นโยบายเผชิญหน้าทางทหารของจักรวรรดิทำให้รัสเซียและจีนจับมือกันอย่างเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น ทั้งหมีขาวและมังกรประกาศเป็นพันธมิตรร่วมทางทหารเพื่อรับมือสหรัฐ

มองในแง่ของจักรวรรดิ นโยบายที่ถูกต้องคือต้องให้รัสเซียและจีนแตกคอกันแล้วค่อยจัดการทีละประเทศทีหลังจะเป็นการง่ายหรือสะดวกกว่า อย่างไรก็ดี เมื่อจักรวรรดิเสื่อมลง ประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย อิหร่าน กลุ่มบริกส์เข้มแข็งขึ้น ประเทศเหล่านี้ต่างต้องการมีที่ยืนของตัวเองบนโลก โดยไม่ต้องฟังเล็คเชอร์จากวอชิงตัน ดีซีเรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเงาของวอชิงตัน ดีซี ยอมไม่ได้

ฮิลลารี่เคยด่าปูติน ผู้นำรัสเซียว่าเป็นฮิตเล่อร์จากการที่รัสเซียเข้าไปผนวกเอาไครเมียร์ของยูเครนมาเป็นของรัสเซีย และประกาศว่าถ้าได้เป็นประธานาธิบดี จะเอาขีปนาวุธมาปิดล้อมจีน นอกจากนี้ โอบามายังได้ส่งสัญญาณให้นาโต้ประชิดกองทัพที่ชายแดนรัสเซียทางยุโรปตะวันออก และมีการเสริมกองทัพในทะเลจีนใต้เพื่อท้าทายจีน ที่สำคัญฮิลลารี่ได้แย้มว่าในช่วงหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า จะประกาศให้ซีเรียเป็นเขตห้ามบิน (No Fly Zone) เครื่องบินรบลำใดที่บินเหนือน่านฟ้าซีเรียจะโดนกองทัพสหรัฐสอยร่วงทันที ถ้าไม่แจ้งให้ทางกองทัพสหรัฐอนุมัติก่อน กองทัพรัสเซียตั้งฐานอยู่ในซีเรียอยู่แล้วและกำลังปฏิบัติการกับกองทัพซีเรียในการถล่มพวกไอซิสด้วยฝูงเครื่องบินรบ อยู่ดีๆนางฮิลลารี่จะมาห้ามเครื่องบินรบของรัสเซีย หรือของซีเรียบินเหนือน่านฟ้าของประเทศตัวเอง ใครจะไปยอม? แต่ในทางกลับกันก็เท่ากับว่านางแม่มดต้องการทำสงครามกับรัสเซียในตะวันออกกลางนั้นเอง ด้วยเหตุนี้ ถึงมีความหวั่นไปทั่วว่า ถ้านางแม่มดได้เป็นประธานาธิบดี เธอจะก่อสงครามโลกครั้งที่3

นโยบายต่างประเทศของทรัมป์จึงมีการเจียระนัยออกมาอย่างรอบคอบเพื่อที่จะแก้ความผิดพลาดของนางแม่มดและโอบามา จะเห็นได้ว่าทรัมป์พูดถึงปูตินหรือรัสเซียในแง่ที่ดีมาตลอดการแคมเปญ เขาบอกว่ารัสเซียทำดีแล้วในการจัดการพวกไอซิสในซีเรีย ด้วยเหตุนี้สหรัฐควรให้รัสเซียเดินหน้าต่อไปในการแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย ทรัมป์บอกว่าเขาไม่มีปัญหาที่จะพูดคุยกับปูตินเพื่อรื้อฟื้นสัมพันธ์กับรัสเซียที่เสื่อมลงไปอย่างมากจนสร้างความเสี่ยงของสันติภาพของโลก ทางทีมงานของนายSergey Lavrov รมวต่างประเทศรัสเซียมีการติดตามการแคมเปญของทรัมป์มาตลอดเพื่อดูว่านโยบายต่างประเทศของทรัมป์จะไปในทิศทางผ่อนคลายในความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอื่นๆเช่นรัสเซียอย่างไร ปูตินเป็นคนแรกที่ส่งสาส์นแสดงความยินดีกับชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ และทรัมป์โทรศัพท์พูดคุยกับปูตินไม่กี่วันหลังเลือกตั้ง การพูดคุยกันระหว่างทรัมป์และปูตินทำให้อุณหภูมิการเมืองโลกเย็นลงทันที ที่คาดการว่ามหาอำนาจจะเปิดศึกซัดกันเมื่อฮิลลารี่ขึ้นมามีอำนาจต้องมีการทบทวนกันใหม่หมด

ทรัมป์พูดดีกับรัสเซีย แต่มีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนมาตลอด เขาบอกว่า เมื่อได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะออกกฎหมายประกาศว่าจีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน (currency manipulator)เพื่อเอาเปรียบสหรัฐในทางการค้า จีนได้เปรียบดุลย์การค้ากับสหรัฐในปีหนึ่งๆหลายแสนล้านดอลล่าร์ เม็ดเงินนี้ถูกเอาไปสร้างโครงสร้างพื้่นฐาน ปรับปรุงเศรษฐกิจจีนให้ทันสมัย ยกระดับมาตรฐานการครองชีพของคนจีน และเสริมสร้างแสนยานุภาพกองทัพของจีนให้เข็มแข็งขึ้น

ทรัมป์บอกว่าการค้าที่เอาเปรียบผ่านการทำเงินหยวนให้อ่อนค่าเกินความเป็นจริงทำให้อุตสาหกรรมของสหรัฐไม่สามารถแข่งขันได้ ผลเสียตกอยู่ที่แรงงานของสหรัฐที่ต้องตกงาน ถ้าหากว่าจีนยังคงเอาเปรียบสหรัฐทางการค้า รัฐบาลของเขาจะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนถึง45%

ทรัมป์เตรียมประกาศสงครามการเงินและสงครามการค้ากับจีนควบคู่กันไป ในขณะที่เขาพยายามที่จะคืนดีกับรัสเซีย เท่ากับว่าทรัมป์พยายามแก้ลำให้กับจักรวรรดิที่ถลำตัวลึกในการประกาศศึก2ด้านทำให้รัสเซียและจีนแนบแน่นกันเป็นพิเศษ ทั้งๆที่2ประเทศนี้มีเรื่องมากมายที่ไม่ลงรอยกัน แม้ว่าจะมีการต่อสายให้ทรัมป์ได้พูดคุยกับเฮียสี แต่เราคงจะได้เห็นนโยบายที่แข็งกร้าวของทรัมป์สำหรับจีนที่เตรียมรับมือเต็มที่อยู่แล้ว ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทรัมป์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ในความพยายามที่จะสร้างความร้าวฉานระหว่างรัสเซียและจีน ถ้าปูตินและเฮียสีตกหลุมพรางของทรัมป์ก็โง่เต็มแก่

ความจริงสินค้าที่จีนส่งไปสหรัฐเกิดขึ้นได้จากบริษัทอเมริกันที่ไปลงทุนในจีนเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ข้าวของเกือบทุกอย่างที่คนอเมริกันบริโภคอยู่ในเวลานี้ Made in Chinaเกือบทั้งนั้น และในแง่เศรษฐศาสตร์เป็นการส่งออกของถูกให้คนอเมริกันใช้ ซึ่งเป็นการลดแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าคนอเมริกันต้องบริโภคของที่ผลิตในสหรัฐเอง สินค้าต้องแพงขึ้นหลายเท่าตัว ทรัมป์พูดหาเสียงฟังแล้วลื่นหู แต่จะจัดการกับจีนได้ตามที่พูดหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง
 thanong
 19/11/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #186 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:41:43 PM »

มินิซีรี่ส์
 22. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรัมป์มีท่าทีแข็งกร้าวมากกับอิหร่าน มากกว่าท่าทีของเขาที่ไม่เป็นมิตรกับจีนเสียอีกโดยไม่มีเหตุผลสมควรตามความจริง เขาบอกว่า นโยบายของโอบามาต่ออิหร่าน หรือข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำให้อิหร่านกลับเข้ามาสู่สมาคมโลกอีกครั้งเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และไม่ถือว่าเป็นการสกัดไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในอันดับต่อไป ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อภูมิภาคและต่อโลก

ด้วยเหตุนี้อิหร่านจึงเป็นประเทศที่ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากกับชัยชนะของทรัมป์ เพราะว่าใครมาเป็นประธานาธิบดีก็เหมือนกันหมด

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวในวันพุธ(26พ.ย.) ว่าผลของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ออกมา ไม่ก่อความแตกต่างต่อประเทศของเขา แม้ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีจุดยืนที่้ก้าวร้าวก็ตาม
 "เราไม่ได้ตัดสินจากศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะยังไง อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกาเดิมๆ" เขาบอกกับประชาชนหลายพันคนระหว่างปราศรัยต่อสาธารณะในเตหะรานและมีการออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ "ในช่วง 37 ปีหลัง ไม่ว่าพรรคไหนอยู่ในตำแหน่งก็ไม่เคยทำดีกับเรา และปีศาจร้ายของพวกเขายังคงพุ่งตรงมาที่เราเสมอ"

ความพยายามของโอบามา และฮิลลารี่ที่อยู่ในเงาข้างหลังที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับอิหร่าน หลังจากที่สหรัฐแซงชั่นอิหร่านมาหลายทศวรรษอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ฮิลลารี่ต้องถูกสกัดไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจก็เป็นไปได้ เพราะว่าอิสราเอลและซาอุดิ อาราเบียไม่พอใจโอบามามากที่ต้องการปล่อยเสือเข้าป่า ที่ผ่านมา อิหร่านไม่ยอมก้มหัวนโยบายต่างประเทศให้สหรัฐ และไม่ยอมให้บริษัทน้ำมันของตะวันตกเข้าไปยึดบ่อน้ำมันของตัวเองทำให้อิหร่านกลายเป็นเป้าของการถูกแซงชั่นมาหลายทศวรรษ และถูกขึ้นทะเบียนบัญชีดำกับประเทศอื่นๆเช่นคิวบา เกาหลีเหนือ พม่าฯลฯ อิหร่านหาทางออกในการป้องกันชาติของตัวเองด้วยการเลือกทางเดินในการปฏิวัติศาสนา เพื่อรวมคนในชาติให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อต้านภัยจากพวกฝรั่ง การปฏิวัติศาสนาของอิหร่านถูกมองว่าอิหร่านที่เคยปกครองด้วยระบบกษัตริย์ล้าหลัง ถอยหลังเข้าคลองไม่เป็นประชาธิปไตย และกดขี่ประชาชน แต่คนอิหร่านเป็นชนชาติที่มีวินัยและความาอดทนสูงที่สุด ค่อยๆสร้างตัวขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสนยานุภาพทางทหารเพื่อเช็คบิลศัตรูถาวรคือซาอุดิ อาราเบียและอิสราเอลที่สหรัฐและอังกฤษให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง

อย่างไรก็ดี เกมของโอบามาในการคืนดีกับอิหร่านคือต้องการดึงเอาอิหร่านออกจากอ้อมอกของรัสเซียจึงมีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อการสงคราม ในที่สุดการเจรจานั้นโดยมีชาติมหาอำนาจหลายชาติเข้าร่วมก็บรรลุผลสำเร็จ อิหร่านตกลงให้มีการตรวจสอบโรงงาน หรือสถานที่เชื่อว่าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และจะลดกำลังความสามารถในการถลุงแร่ยูเรเนี่ยมให้บริสุทธิ์ที่ใช้ในการสร้างนิวเคลียร์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกการแซงชั่น ซึ่งจะทำให้อิหร่านจะได้เงินที่โดนแช่แข็งคืน รวมทั้งจะสามารถออกมาค้าขายกับโลกภายนอกได้ตามปกติ รวมทั้งปั๊มน้ำมันออกมาขายแข่งกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ

แต่ทั้งซาอุและอิสราเอลไม่พอใจการดำเนินนโยบายของโอบามาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายเบนจามิน เนธันยาฮูถึงกับต่อว่าโอบามาอย่างรุนแรง เพราะว่าถ้าอิหร่านมี่ความเข้มแข็งขึ้นเมื่อใด ภัยต่อซาอุและอิสราเอลก็มีเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทั้ง2ประเทศและประเทศอาหรับอื่นๆจะไม่สามารถดำเนินนโยบายเพื่อสร้างอิทธิพลในตะวันออกกลางได้ โดยไม่มีคู่แข่ง การล่มสลายของอิรักและซีเรียโดยฝีมือการออกหน้าทางทหารของสหรัฐและนาโต้สร้างประโยชน์ให้ทั้งอิสราเอลและซาอุเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าจะได้เขียนแผนที่ตะวันออกกลางใหม่

สาเหตุหนึ่งที่โอบามาและฮิลลารี่ต้องทำดีกับอิหร่านเป็นพิเศษ เพราะว่าฮิลลารี่พลาดท่าให้อิหร่านอย่างแรง เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากนางแม่มดมาเยือนเมืองไทยพร้อมกับโอบามาในเดือนพฤศจิกายนปีคศ 2012 เธอบินไปตะวันออกกลางอย่างทันทีเพื่อกิจกรรมลับสุดยอดบางอย่าง ส่วนโอบามาบินกลับวอชิงตันเพราะว่าคิดถึงสนามกอล์ฟใจจะขาด

ปรากฎว่าเครื่องบินโดยสารทหารC-12 Huron ที่พานางแม่มด พร้อมกับทีมหน่วยซีลให้การการดูแลความปลอดภัยระดับวีไอพีประสบอุบัติเหตุ หรือโดนยิงตกบริเวณชายแดนระหว่างอิรักและอิหร่าน ทำให้ผู้บัญชาการหน่วยซีลJob W Priceเสียชีวิต เครื่องบินตกที่เมืองAhvazของอิหร่านใกล้ชายแดนอิรัก เครื่องบินทหารC-12 Huronบินออกจากฐานทัพที่เมือง Urozgan ของอัฟกานิสถานไปยังบาห์เรนเพื่อรับนางแม่มด ก่อนที่จะออกเดินทางตามเส้นทางไปแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก แต่หลังจากที่เครื่องบินออกเดินทางได้ไม่นาน มีการเปลี่ยนเส้นทางกระทันหันไปยังชายแดนอิหร่านก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง หรืออาจจะถูกยิงตกที่เมือง Ahwazของอิหร่าน

นางแม่มดได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเครื่องบินตก ทีมแพทย์ของอิหร่านเดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ปรากฎว่าฮิลลารี่สิ้นสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง และมีเลือดคั่งในสมอง และมีเลือดไหลออกมามาก
https://wikileaks.org/clinton-emails/emailid/9457

สื่อของสหรัฐไม่ได้มีการรายงานเกี่ยวกับการบาดเจ็บของฮิลลารี่จากเครื่องบินตกแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการตั้งเงื่อนไขและการเจรจากันระหว่างอิหร่านและโอบามาในการส่งคืนฮิลลารี่ที่ตกเป็นเชลยของรัฐบาลอิหร่าน เพราะว่าเธอบินล้ำเข้ามาในเขตแดนอิหร่านก่อนที่เครื่องบินC-12 Huronจะตก การเจรจานิวเคลียร์เพื่อยกเลิกการแซงชั่นอิหร่านอาจจะเป็นเงื่อนไขที่สำคัญของการส่งตัวฮิลลารี่คืนก็ได้

ฮิลลารี่ถูกส่งกลับสหรัฐและเข้ารักษาโรงพยาบาลผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุนี้อาการไม่สบายที่ฮิลลารี่แสดงออกในช่วงที่เธอหาเสียงเลือกตั้งน่าจะมาจากการผ่าตัดจากอุบัติเหตุ

ต่อมามีรายงานว่า รัฐบาลโอบามาต้องจ่ายเงิน$1,700ล้านให้รัฐบาลอิหร่านเป็นเงินสด โดยขนเงินขึ้นเครื่องบินคาร์โก้ไปลงกรุงเตหะรานเพื่อจ่ายค่าไถ่ตัวเชลยอเมริกันที่โดนอิหร่านจับกุมตัว เดิมทีข่าวออกมาว่า รัฐบาลโอบามาจ่าย$400ล้าน แต่ต่อมาปรากฎว่าจำนวนเงินเพิ่มขึ้นเป็น$1,700ล้าน ชาวอเมริกันที่ถูกอิหร่านจับข้อหาเป็นสายลับไม่น่าจะมีค่าหัวแพงถึงขนาดต้องจ่ายค่าไถ่สูงถึง60,000ล้านบาทเมื่อคิดเป็นเงินไทย น่าจะเป็นการไถ่ตัวตัวนางฮิลลารี่ด้วยที่โดนอิหร่านยึดเป็นตัวประกันไม่กี่วันด้วย
http://www.breitbart.com/…/confirmed-obamas-entire-1-7-bil…/

ทรัมป์ขึ้นมามีอำนาจเพื่อที่จะล้มดีลที่โอบามาและฮิลลารี่ทำกับอิหร่าน เปลี่ยนรัฐบาลแล้วเปลี่ยนนโยบาย เพราะว่าทรัมป์ได้แสดงตัวเองให้เห็นชัดเจนว่า เขาจะรักษาผลประโยชน์ของอิสราเอลเป็นหลัก
 thanong
 19/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #187 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:43:30 PM »

มินิซีรี่ส์
 23. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

คนที่มีบทบาทมากที่สุดในการให้คำปรึกษาแก่ทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายความมั่นคง และการก่อการร้ายคือพลโท Michael Flynn นายทหารที่ปลดเกษียณแล้ว และเป็นอดีตผู้อำนวยการของหน่วยงานข่าวกรองของเพนตากอน (Defence Intelligence Agency) ฟลินน์เขียนสกริ๊ปให้ทรัมป์โจมตีนโยบายของฮิลลารี่และโอบามาที่ล้มเหลวในซีเรีย ซึ่งทำให้เกิดผู้ก่อการร้ายไอซิสขึ้นมา เขาได้รับรางวัลด้วยตำแหน่งเบอร์หนึ่งที่ปรึกษาสภาความมั่นคง (National Security Council Adviser)ในรัฐบาลของทรัมป์

ฟลินน์ไม่ได้แตกต่างจากนายทหารชั้นสูงและฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐที่ยกเอาผลประโยชน์ หรือความอยู่รอดของอิสราเอลเหนือสิ่งอื่นใด ในปี 2015 เขาให้ถ้อยแถลงต่อคณะกรรมธิการด้านการต่างประเทศและการทหารของสภาคอนเกรซว่า การขยายตัวของอิหร่าน ไม่เพียงแต่จะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ แต่จะกระทบต่อพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐอิสราเอล อิสราเอลอยู่ภายใต้ภัยของการถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แบบจากอิหร่าน และกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามอื่นๆในภูมิภาค เรื่องนี้ทางสหรัฐจะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้
https://lobelog.com/lt-gen-michael-flynn-ret-has-it-in-for…/

อิสราเอลฉลองชัยชนะของทรัมป์อย่างออกหน้าออกตา เพราะว่าในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์บอกว่าเขาจะดีกับอิสราเอล และเขามีความใกล้ชิดกับศาสนาจูดาห์ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสัญญาว่าจะรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยไม่มีการแบ่งแยก

นายเบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวของอิสราเอลแสดงอาการลิงโลดที่ได้พบทรัมป์ เพราะว่านโยบายของรัฐบาลของเขาคือไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ และนอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่ของชาวยิวล้ำเข้าไปในดินแดนของชาวปาเลสไตน์เรื่อยๆ

ปัญหาเยรูซาเลมที่ไม่ถูกแบ่งแยกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ชาวปาเลสไตน์ ผู่้ถูกยึดดินแดนไปเรืื่อยๆจนแทบที่จะไม่มีแผ่นดินอยู่ หวังว่าจะรักษาเยรูซาเลมตะวันออก (East Jerusalem) ให้เป็นเมืองหลวงของตัวเองได้่ สหรัฐมีสถานทูตอยู่ที่กรุงเทล อาวีิฟ แต่ยังไม่กล้าย้ายสถานทูตมายังกรุงเยรูซาเลม เพราะอ้างว่าอาจจะไม่ปลอดภัย ความจริงแล้ว ถ้าหากว่าสหรัฐย้ายสถานทูตมาเยรูซาเลม เท่ากับว่าสหรัฐยกเลิกการยอมรับการดำรงอยู่ของรัฐปาเลสไตน์ที่โดนอิสราเอลยึดไป
http://edition.cnn.com/…/politi…/israel-right-trump-victory/

แม้ว่าทรัมป์จะแสดงท่าทีว่า จะเป็นมิตรกับรัสเซีย และจะร่วมมือกันในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส แต่การที่ฟลินน์ขึ้นมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสภาความมั่นคงไม่น่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาของตะวันออกกลางในทิศทางที่ดีขึ้น ในเมื่อทรัมป์และฟลินน์มองว่าผลประโยชน์ หรือความอยู่รอดของอิสราเอลตั้งมาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด เท่ากับว่าทั้งคู่จะเกิดนหน้าในการดำเนินนโยบายเผชิญหน้ากับอิหร่าน เพื่อปกป้องอิสราเอล

แต่อิหร่านได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และทั้งอิหร่านและรัสเซียมีการร่วมมือกันใจการปกป้องรัฐบาลอัสซาดของซีเรีย โอบามาเสียท่าปูตินอย่างแรง เพราะว่าโดนรัสเซียตั้งฐานทัพในซีเรียและถล่มกลุ่มก่อการร้ายที่โอบามาให้การสนับสนุนในการล้มรัฐบาลซีเรียจนเสียหายยับเยิน ปูตินเป็นผู้กำหนดเกมในตะวันออกกลางในเวลานี้ ไม่ใช่โอบามา ฟลินน์เข้ามาทำงานเพื่อที่รื้อฟื้นอิทธิพลของสหรัฐในตะวันออกกลาง และปกป้องอิสราเอลไปในตัว เพราะว่าซีเรียเป็นรัฐกันชนระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน การสูญเสียซีเรียไปให้ฝ่ายรัสเซียและอิหร่านทำให้อิสราเอลไม่มีรัฐกันชน และมีโอกาสถูกโจมตีอย่างตั้งตัวไม่ทันในกรณีที่เกิดสงคราม

ซาอุดิก็อยู่ในฐานะเดียวกันกับอิสราเอล แต่ซาอุดิกำลังโดนยำใหญ่ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะไม่ซื้อน้ำมันจากซาอุดิอีกต่อไป เพราะว่าแหล่งพลังงานในสหรัฐมีเพียงพอ

ก่อนที่ซาอุดิจะประกาศตัวเลขสำรองน้ำมันว่ามีเท่าใด รัฐบาลสหรัฐรีบชิงตัดหน้าประกาศว่าพบแหล่งน้ำมันใหญ่มหึมาที่รัฐเท็กซัส กฎมายที่เปิดช่องให้ครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหายจากเหตุการ911สามารถฟ้องร้องซาอุดิืได้ เพราะว่ามีรายงานของสภาคอนเกรซว่าผู้ก่อการร้ายที่ถล่มตึกWorld Tradeมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลซาอุดิ เรื่องนี้ยิ่งจะทำให้ซาอุดิตกที่นั่งลำบาก ไหนราคาน้ำมันจะร่วง ไหนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศจะหมดตูด ไหนจะเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง ไหนจะโดนอีแร้งแบล็คเมล์ ไหนจะล้มละลายจากการลงทุนที่ล้มเหลวในการสร้างกลุ่มก่อการร้ายเพื่อล้มซีเรีย ไหนอาจจะต้องเปิดศึกกับอิหร่านที่ตัวเองไม่มีทางสู้ ไหนจะพัวพันในสงครามเยเมนที่ลากยาวเกินไปกว่าคาด

กล่าวโดยสรุป นโยบายของทรัมป์และฟลินน์ไม่ได้แตกต่างอะไรจากรัฐบาลสหรัฐที่ผ่านมา ทั้งในการเผชิญหน้่ากับมหาอำนาจรัสเซีย จีน อิหร่านและเกาหลีเหนือ มิหนำซ้ำมีความเสี่ยงว่า ทรัมป์อาจจะเป็นผู้ก่อสงครามโลกตัวจริงแทนฮิลลารี่
 thanong
 19/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #188 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:45:00 PM »

มินิซีรี่ส์
 24. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

Steve Bannon ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีทรัมป์ (White House Counsellor) หรือหัวหน้านักยุทธศาสตร์ของทำเนียบขาว (Chief Strategist) จะเป็นมันสมองของทรัมป์ โดยหน้าที่ของเขาคือจะวางกลยุทธ รวมทั้งนโยบายชาตินิยมขวาจัดสุดขั้วให้รัฐบาลทรัมป์ให้ดูมีความเป็นวิชาการและความต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์

เขาให้สัมภาษณ์ว่า ความมืดเป็นสิ่งที่ดี (Darkness is good) เพราะว่าความมืดคืออำนาจ ให้ดูอำนาจของDick Cheney, Darth Vaderแห่งStar Wars หรือซาตานเป็นตัวอย่าง เพราะว่ามันมาจากความมืดทั้งนั้น

เราจะได้เห็นบทบาทของแบนนอน พ่อมดแห่งความมืดประจำทำเนียบขาว ที่จะให้คำแนะนำทรัมป์ในนโยบายขวาจัดเพื่อที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่แนะนำให้ทรัมป์ประกาศนโยบายสร้างกำแพงเม็กซิโก สร้างความแตกแยกด้วยการให้ร้ายกับมุสลิม โจมตีพวกอิลิทในดีซี กอดรับลัทธิชาตินิยมอย่างสุดขั้ว ให้บริษัทอเมริกันโยกฐานการผลิตกลับมาอเมริกา ให้รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ฯลฯ

เบนนอนมาจากครอบครัวชนชั้นทำงาน เขาเข้ากองทัพเรือหลังจากจบจากมัธยมปลาย เรียนจบที่มหาวิทยาลัยVirginia Tech แล้วไปต่อที่มหาวิทยาลัยGeorgetownในดีซี ก่อนที่จะได้ปริญญาMBAที่มหาวิทยาลัยHarvard Business School

เบนนอนทำงานให้Goldman Sachs ก่อนที่จะผันตัวเองเป็นนักต่อรองทางธุรกิจและผู้สร้างภาพยนต์ของฮอลลีวู๊ด เขาร่ำรวยจากฮอลลีวู๊ดก่อนที่จะออกไปทำสื่อแนวทฤษำีสมคบคิดและอนุรักษ์นิยมขวาจัด เขาอยู่ที่Breitbart News Network ซึ่งเป็นสื่อทางเลือกแนวขวาจัดที่ทำให้หลายวคนรู้สึกไม่สบายใจที่เบนนอนจะมานั่งตำแหน่งสำคัญในทำเนียบขาว

แต่ทรัมป์ไว้วางใจเบนนอนมาก เพราะว่าเขาเป็นประธานการหาเสียงให้ทรัมป์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้ทรัมป์ชนะนางแม่มดอย่างถล่มทลาย เขาเป็นคนที่มีความคิดใหญ่

ในช่วงฤดูร้อน เบนนอนให้สัมภาษณ์กับMichael Wolff แห่งThe Hollywood Reporterว่า ทรัมป์จะได้คะแนนสูงจากผู้หญิง พวกฮิสปานิกส์ และคนผิวดำ นอกจากนี้ทรัมป์จะได้การสนับสนุนจากคนทำงาน ซึ่งจะมากเพียงพอให้เขาชนะในรัฐฟลอริด้า โอไฮโอ เพนซิลวาเนีย และมิชิแกน เมื่อทรัมป์ชนะรัฐเหล่านี้ เขาจะชนะได้เป็นประธานาธิบดี

ในวันที่15 พฤศจิกายน Michael Wolffกลับมาหาเบนนอนเพื่อขอสัมภาษณ์อีกครั้ง เบนนอนบอกกับเขาว่า "ผมบอกคุณแล้วใช่ไหม"

เบนนอนให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้เป็นคนเหยียดผิว และเขาไม่ได้เป็นนักชาตินิยมผิวขาว แต่เขาเป็นนักชาตินิยม นักชาตินิยมทางเศรษฐกิจ พวกโลกาภิวัฒณ์ได้ทำลายชนชั้นกลางอเมริกัน และไปสร้างชนชั้นกลางในเอเชียแทน ประเด็นคือคนอเมริกันจะต้องไม่โดน (f--k)อีกต่อไป ถ้าหากว่าเราได้คะแนนเสียงของคนผิวขาว60% คนผิวดำและฮิสแพนิก40% เราจะปกครองประเทศนี้ต่อไปอีก50ปี นี้คือสิ่งที่พวกเดโมแครตพลาด เพราะว่าพวกเขาพูดกับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดรวม$9,000ล้าน แต่จ้างงานเพียง9คน นั้นไม่ใช่ความจริง พวกเขามองไม่เห็นว่าโลกนี้เป็นยังไงกันแน่

เบนนอนบอกว่า ชัยชนะของทรัมป์เป็นการล่มสลายของพวกที่มีอำนาจอยู่แล้ว นอกจากนี้พวกสื่อฟองสบู่เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ดำเนินไปอย่างผิดพลาดของประเทศนี้ พวกเขาแค่พูดคุยระหว่างกันเอง โดยไม่รู้เรื่องว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น ถ้าไม่มีNew York Timesแล้ว CNN MSNBCเป็นเพียงแบบทดลองเท่านั้น สื่อHuffington Postรายงานทุกอย่างตามNew York Times มันเป็นวงจรข่าวสารที่ปิด และฮิลลารี่ได้ข้อมูล และความมั่นใจจากพวกนี้

แบนนอนบอกว่า ทรัมป์จะสร้างแนวร่วมทางการเมืองใหม่ โดยจะเน้นนโยบายการคลังที่ไปสอดคล้องกับนโยบายการเงินในภาวะที่ดอกเบี้ยติดลบ หรือการก่อหนี้ได้อย่างถูกๆ ดอกเบี้ยติดลบจะอยู่ไม่นาน

นโยบายทรัมป์จะกดดันให้บริษัทอเมริกันย้ายฐานผลิตกลับประเทศ ทั้งรัฐและเอกชนจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อก่อให้เกิดการจ้างงาน จะมีการลดภาษีให้นิติบุคคลและบุคคลเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่าย งบทหารจะไม่แตะ แถมจะเพิ่มให้ด้วยซ้ำเพื่อเตรียมการรับมือกับอิหร่าน รัสเซีย จีนและเกาหลีเหนือ แผนการของทรัมป์ที่จะหลุกชีพเศรษฐกิจอเมริกาจะนำมาซึ่งเงินเฟ้อ

พ่อมดเบนนอนจะสร้างให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเงินเฮลิคอปเตอร์

thanong
 19/11/2016
http://www.zerohedge.com/…/steve-bannon-interviewed-issue-n…


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #189 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:47:50 PM »


มินิซีรี่ส์
 25. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรัมป์พร้อมคุยกับพี่ปูอย่างเปิดอก จะล้มดีลนิวเคลียร์ที่ทำกับอิหร่าน และจะบี้ให้จีนลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐ แต่สำหรับเกาหลีเหนือแล้ว ทรัมป์พูดจาเหมือนไม่ให้ราคาคิมน้อยตอนแรก พอฉุกคิดอีกที ทรัมป์บอกว่าคิมน้อยไม่ธรรมดาเลย

เมื่อได้เป็นประธานาธิบดี ทรัมป์จะยื่นช่อมะกอกแห่งสันติภาพให้คิมน้อย แต่จะไม่จัดงานเลี้ยงระดับสเตทดินเน่อร์ให้คิมน้อย หรือให้ผู้นำจีนที่ทรัมป์แสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด

แต่ทรัมป์พร้อมพบกับคิมน้อยที่ร้านอาหารฟาสฟูดส์ กินแฮมเบอร์เก้อร์ไป คุยกันไป

ในช่วงที่ผ่านมา สื่อทางการของเกาหลีเหนือยังไม่แสดงท่าทีเกี่ยวกับทรัมป์มากนัก โดยบอกแต่เพียงว่า ทรัมป์เป็นนักการเมืองที่ฉลาด และเป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับคนอเมริกัน

ในทางกลับกันสื่อเกาหลีเหนือเยาะเย้ยโอบามาว่าเป็น "ลิงดำที่ชั่วร้าย" และเรียกนางแม่มดฮิลลารี่ว่าเป็น "ผู้กินเงินบำนาญไปช็อปปิ้ง"

ในเดือนมกราคมปีนี้ ระหว่างที่เขาตระเวณหาเสียงในในรัฐไอโอวา ทรัมป์ออกปากชมคิวน้อย แม้ว่าจะบอกว่า เขาเป็นคนบ้า

"คนนี้ ดูแล้วเหมือนคนบ้า โอเคไหม? แต่คุณต้องให้เครดิตเขานะ มีคนหนุ่มซักกี่คน อายุแค่25-26ปีที่หลังจากพ่อตายไปแล้ว สามารถขึ้นมาคุมคนระดับนายพลได้อย่างทันที มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากถ้าเราคิดถึงมันจริงๆ
 เขาทำได้อย่างไร

"เขาจัดการกับลุง เขาจัดการคนโน้น คนนี้ คนนี้ไม่เล่นเกม และเราไม่สามารถเล่นเกมกับเขาได้ เพราะว่าเขามีขีปนาวุธ และเขามีนุ๊ก

"นุ๊กของเขากำลังดีวันดีคืน ด้วยศักยภาพที่แรงขึ้น เวลากำลังนับถอยหลัง"
http://www.bbc.com/news/world-asia-38001843

คิมน้อยเป็นหอกข้างแคร่ที่โอบามาแก้ไม่ตก เพราะว่าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือสามารถยิงถึงอเมริกาแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐจะสกัดนุ๊กของคิมน้อยได้หรือไม่

คิมน้อยบอกว่าไม่ได้ขู่นะ แต่พวกยูตั้งฐานทัพในโอกินาวาและที่เกาหลีใต้เพื่อเตรียมถล่มประเทศไอมานาน แล้วจะให้ไอนั่งงอมืองอเท้าเหมือนซัดดัม หรือกัดดาฟี่หรือไง

ถ้าต้องการเจรจาสันติภาพ ไอพร้อมทุกเมื่อ แต่ยูต้องแสดงความเป็นมิตรด้วยการถอนทหารออกจากเกาหลีใต้ก่อน

ทั้งเกาหลีใต้ รวมทั้งญี่ปุ่นออกอาการสั่นเหมือนกันที่คิมน้อยขู่ว่าจะเอาจริง จะขอซัดไปดอกหนึ่งหรือสองดอกให้ดูเล่นเป็นขวัญตา ถ้ายังเล่นจับมือกับอีแร้งเพื่อปิดล้อมเกาหลีเหนือไม่เลิกอย่างนี้

หลังจากทรัมป์ได้ชันชนะเลือกตั้งแล้ว ปรากฎว่าผู้นำเกาหลีใต้ นางปาร์ค คึน แฮรีบขอความมั่นใจจากทีมงานของทรัมป์ว่า สหรัฐจะยังคงปกป้องเกาหลีใต้อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนนายกญี่ปุ่น นายซินโซะ อาเบ้ลงทุนบินไปหาทรัมป์ที่นิวยอร์คเพื่อขอความกระจ่างว่าอีแร้งจะยืนเคียงข้างญี่ปุ่น ทรัมป์โปรยยาหอมให้ทั้งปาร์ค คึนแฮและอาเบ้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

ทั้งนี้เป็นเพราะในช่วงหาเสียง ทรัมป์บอกว่า ถึงเวลาแล้วที่เกาหลีใต้จะต้องดูแลตัวเองเรื่องการทหาร จะให้สหรัฐไปแบกรับผิดชอบเรื่องการเงินแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ส่วนญี่ปุ่น ถ้ากลัวเกาหลีเหนือก็ให้สร้างนุ๊กเอง จะได้หมดเรื่องหมดราว

คิมน้อยกบดานอยู่ในถ้ำอยู่ในเวลานี้ รอว่าทรัมป์จะเคาะอย่างไร เกาหลีเหนือมีนุ้กและไม่มีอะไรที่จะต้องสูญเสีย ยิ่งถ้าเกาหลีเหนือโดนโจมตี จีนต้องเข้ามาช่วยอย่างแน่นอน เพราะว่ามีชายแดนติดกัน จีนถือว่าเกาหลีเหนือเป็นความมั่นคงของจีนด้วย

ระหว่างรอทรัมป์ คิมน้อยเปิดยูทูปฟังเพลงโปรด Arirang

https://www.youtube.com/watch?v=gkM_LXUCMeA

thanong
 20/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #190 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:49:47 PM »

มินิซีรี่ส์
 26. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรั้มป์จะจัดการอย่างไรกับธนาคารกลางของสหรัฐ( US Federal Reserve) ที่เอกชน พวกไร้พรมแดนป็นเจ้าของ หลังจากที่เขาเข้าไปนั่งในทำเนียบขาวแล้ว?

ในช่วงการแคมเปญ ทรัมป์พูดจาแบบไม่ให้ราคาเจเน็ต เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารเฟดเลย โดยบอกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเยลเลนเมื่อเวลาอำนวย

ตกลงทำเนียบขาวคุมเฟด หรือว่าเฟดคุมทำเนียบขาวกันแน่ เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน

ทรั้มป์บอกว่า เยลเลนควรจะมีความละอายใจที่ดำเนินนโยบายการเงินที่ช่วยประธานาธิบดีโอบามามาตลอด การกดดอกเบี้ยต่ำเกินเหตุ พร้อมทั้งพิมพ์เงินมาซื้อตราสารหนี้ต่างๆ ทำให้เกิดความบิดเบือนขึ้นในระบบเศรษฐกิจ

ทรั้มป์บอกว่ามีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ดีในสหรัฐเวลานี้คือตลาดหุ้นเทียม (artificial stock market)

ก่อนหน้าวันเลือกตั้งเพียงวันเดียว ทีมงานของทรั้มป์ผลิตโฆษณาทีวี โจมตีพวกนายแบงก์ ผู้ว่าการธนาคารกลางต่างๆของกลุ่มG-20 รวมทั้งมีรูปของเยลเลนปรากฎในภาพด้วยว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความตกต่ำ เกิดความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่างคนมีกับคนที่ไม่มี

ทำให้มีการคาดคะเนว่า หลังจากที่ทรั้่มป์เข้าไปนั่งในทำเนียบขาวแล้ว เยลเลนจะยื่นใบลาออก

อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นางเยลเลนพูดในระหว่างการให้ถ้อยแถลงต่อสภาว่า เธอจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง เพราะว่าสภาเซเนทโหวตให้เธอเข้ามาทำงานในเทอม4ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมกราคมปี2018 และเธอมีความตั้งใจที่จะอยู่จนครบเทอม

แม้ว่าทรั้มป์จะปลดเยลเลนจากตำแหน่งประธานเฟด เธอจะยังคงมีตำแหน่งเป็นกรรมการเฟดอยู่ต่อไปได้อีก14ปีจนถึงปี2024

พวกนายธนาคารกลางหนังเหนียวมาก ไม่ตายง่ายๆหรอก

เยลเลนอ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องมีความเป็นอิสระของธนาคารกลางที่ดูแลนโยบายการเงินและเสถียรภาพของระบบการเงิน โดยชี้แจงว่าประเทศที่ธนาคารกลางไม่มีอิสระจะเจอปัญหาเงินเฟ้อ เนื่องจากธนาคารกลางโดนรัฐบาลสั่งให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่ออุดงบประมาณที่ขาดดุล

"ตลาดมีการคาดหวังที่จะเห็นเงินเฟ้อที่ต่ำและมีเสถียรภาพจากธนาคารกลางที่มีอิสระจากแรงกดดันทางการเมือง และมีเศรษฐกิจที่ดี และอีฉันเชื่อว่าเราได้เห็นสองสิ่งนี้ทั้งในอเมริกาและทั่วโลก" เยลเลนกล่าว
http://www.cnbc.com/…/janet-yellen-i-am-not-stepping-down-u…

ฟังเยลเลนพูดแล้วอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง เฟดได้พิมพ์เงินเพิ่มถึง$3.5ล้านล้านในระยะ8ปีที่ผ่านมา แถมกดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ0.25%มาตลอด ดอกเบี้ยเพิ่งจะขยับขึ้นเป็น0.50%ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนป่านนี้เฟดยังขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับปกติไม่ได้

มิหนำซ้ำการพิมพ์เงินของเฟดเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลและเอกชนถือว่าเป็นการผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรง แต่ที่รอดมาได้ทุกวันนี้เพราะว่ามีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าความเป็นจริงหลายเท่า ตัวเลขคนตกงานในสหรัฐมีสูงถึง94ล้านคน

เงินเฟ้อสหรัฐมีจริงให้ไปถามประชาชนคนทำงาน แต่ยังไม่ถึงขั้นทำลายเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะว่าการทำQEเป็นเพียงการเล่นแร่แปรธาตุทางบัญชี ธนาคารพานิชย์ยังไม่ได้ปล่อยกู้ หรือเอกชนไม่ได้มีการใช้เครดิตเพื่อขยายกิจการ มีแต่การเก็งกำไรในตลาดหุ้นตลาดทุน

มีแนวโน้มว่าเฟดต้องการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้อีกขั้นหนึ่งเพื่อดึงดอกเบี้ยเฟดขึ้นเป็น0.75% แต่ขึ้นดอกไปแล้วเพื่อโชว์แค่นั้นเอง แล้วต้องกลับมาหั่นดอกเบี้ยลงอีกก็ได้ เพราะว่านโยบายของทรัมป์ต้องการที่จะลดภาษีและใช้จ่ายทางการคลังเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดการจ้างงาน

นโยบายทรั้มป์จะทำให้หนี้ของสหรัฐเพิ่มอีก$5.3ล้านล้านในอีก10ปีข้างหน้า ทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐที่สูงระดับ$20ล้านล้าน หรือ100%ต่อจีดีพีเวลานี้ยิ่งจะกู่ไม่กลับ

ด้วยเหตุนี้เฟดจึงจำต้องกดดอกเบี้ยระดับ0%ต่อไปเพื่อลดภาระหนี้ และทำให้การสร้างหนี้ใหม่สะดวก เพื่อสนับสนุนนโยบายการคลังที่จะเพิ่มการลงทุนอย่างมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานอย่างน้อยปีละ$100,000ล้าน ซึ่งจะมีผลทำให้เอกชนลงทุนตามน้ำ มีการจ้างงาน แบงก์เริ่มปล่อยเครดิต

แต่สิ่งที่จะตามมาคือ เงินเฟ้อจะเอาไม่อยู่
 thanong
 20/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #191 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:50:51 PM »


มินิซีรี่ส์
 27. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรั้มป์จะเป็นประธานาธิบดีเงินเฮลิคอปเตอร์ (Helicopter Money President) หลังจากเข้าไปนั่งในทำเนียบขาวไม่นาน ทรั้มป์จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วโปรยเงินดอลล่าร์ลงมาเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนเพื่อฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

นายLarry Summers อดีตรมว.คลังของสหรัฐสมัยรัฐบาลบิล คลินตัน เป็นคนให้คำแนะนำว่า ธนาคารกลางของสหรัฐหรือเฟดควรเลิกพะวงกับสถานภาพของความเป็นกลางหรือเป็นอิสระต่อรัฐบาลได้แล้ว เพราะว่าหน้าที่ไปของเฟด คือร่วมมือกันทำทำเนียบขาว และสภาคอนเกรซในการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบของเฮลิคอปเตอร์มันนี้

คำจำกัดความของเฮลิคอปเตอร์มันนี้คือการที่ รัฐบาลดำเนินนโยบายการขาดดุลการคลังอย่างมหาศาลเพื่อใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคารกลางพิมพ์เงินเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยตรงเพื่อช่วยรัฐบาลปิดงบประมาณขาดดุล

ความจริงแล้ว เฟดมีการพิมพ์เงินในลักษณะนี้ตั้งแต่ปี2008 แต่ประเด็นคือพวกแบงก์ไม่ได้มีการปล้อยกู้ และประชาชนไม่ได้มีการใช้จ่าย มีแต่เม็ดเงินเก็งกำไรเข้าไปในตลาดการเงิน ทำให้เศรษฐกิจที่แท้จริงไม่มีการฟื้นตัว

เฮลิคอปเตอร์มันนี่จะแก้ปัญหาคนกลาง คือแบงก์ที่ไม่ยอมปล่อยกู้ และประชาชนไม่ใช้จ่าย โดยที่รัฐบาลจะกู้เงินโดยตรงจากธนาคารกลางจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยไม่ต้องผ่านระบบแบงก์
https://dailyreckoning.com/trump-coming-helicopter-money/

นายสตีฟ เบนดอน ว่าที่หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของทำเนียบขาว ได้ออกมาแย้มแล้วว่า ทรั้มป์จะฉกฉวยโอกาสที่ดอกเบี้ยติดลบในเวลานี้ในการกู้ยืมเงินที่ดอกแสนจะถูกในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ท่าเรือ อุโมงค์ ฯลฯเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงาน

นายจอร์จ โซรอส พ่อมดทางการเงินได้เคยแนะนำยุโรปในลักษณะนี้เหมือนกัน โดยเขาบอกว่าสหภาพยุโรปกำลังจะล่มสลายจากปัญหาการเงิน สังคมและผู้อพยพ แต่ยุโรปจะสามารถฟื้นตัวเองได้จากการใช้จ่ายทางการคลังในรูปแบบของMarshall Planที่สหรัฐให้เงินช่วยเหลือยุโรปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากความย่อยยับของสงครามโลกครั้งที่2

เขาบอกว่า สหภาพยุโรปยังคงมีเครดิตดี ในภาวะดอกเบี้ยต้ำ และเงินท่วมระบบในเวลานี้ ทางอียูควรที่จะกู้เงินจำนวนมหาศาลเทียบเท่ากับMarshall Plan
http://www.infowars.com/soros-plots-european-order-coup-eu…/

เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง เพื่อกลุ่ม3 คือสหรัฐ อียูและญี่ปุ่นวางแผนร่วมกันในการใช้นโยบายเฮลิคอปเตอร์มั่นนี่เพื่อใช้จ่ายทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่นั้นเป็นเพียงอุบาย หรือการโฆษณาชวนเชื่อ

การเตรียมการเฮลิคอปเตอร์มันนี้แท้ที่จริงแล้ว เป็นการเติมกระสุนทางการเงินการคลังให้รัฐบาลโลกตะวันตกเตรียมตัวในการสร้างแสนยานุภาพทางทหารเพื่อรับมือกับการก่อสงครามโลกต่างหาก

thanong
 20/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #192 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:51:15 PM »


มินิซีรี่ส์
 28. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

แนวโน้มที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ทำให้เกิดความกลัวว่า จะเกิดภาวะขาดแคลนดอลล่าร์ สภาพคล่องของโลกเหือดหายไป

เฟดเล่นพิมพ์เงินเป็นบ้าเป็นหลัง โดยเพิ่มงบดุลของตัวเองจาก$900,000ล้านก่อนวิกฤติการเงินปี2008 มาอยู่ที่ระดับ$4.5ล้านล้านในเวลานี้ แล้วทำไมถึงจะเกิดภาวะขาดแคลนดอลล่าร์ได้?

นายJim Rickards ผู้แต่งหนังสือThe Road to Ruinsได้ให้ความเห็นว่า โลกเราสร้างหนี้ดอลล่าร์ใหม่เร็วกว่าที่เฟดพิมพ์เงินเสียอีก จากทุกๆ1เหรียญสหรัฐที่เฟดพิมพ์ออกมา จะทำให้เกิดหนี้ในรูปแบบปิรามิดเพ่ิมขึ้นถึง20เท่า

นั้นหมายความว่า เครื่องยนต์ของระบบการเงินโลกได้สร้างหนี้ใหม่ขึ้นมาถึง$60ล้านล้านระหว่างปี2009 ถึงปี2015 หนี้ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลนี้ส่วนมากอยู่ที่นอกประเทศสหรัฐ

การเล่นเกมการเงินปิรามิดนี้จะไม่มีปัญหาถ้าหากว่าเศรษฐกิจโลกดี และเงินดอลล่าร์ยังคงไหลออกจากสหรัฐเข้าไปในตลาดเกิดใหม่

แต่ในภาวะปัจจุบันที่กำลังเกิดเศรษฐกิจถดถอย การจ่ายหนี้กำลังจะมีปัญหา ดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้คนที่กู้ดอลล่าร์มาใช้จ่ายต้่องจ่ายหนี้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น และพวกที่กู้ดอลล่าร์หาดอลล่าร์ยากขึ้นในการชำระหนี้ เพราะว่าเกิดการขาดแคลนดอลล่าร์จากแนวโน้มของดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้น และสภาพคล่องหดตัว

ด้วยเหตุที่คนกู้ดอลล่าร์หาดอลล่าร์มาจ่ายหนี้คืนลำบาก หรือต้องจ่ายด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น ในขณะที่การไหลของดอลล่าร์ออกจากสหรัฐช้าลงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดวิกฤติการเงินโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ และวิกฤตินี้อาจจะรุนแรงมากกว่าปี2008หลายเท่า
https://dailyreckoning.com/coming-dollar-shortage/

เห็นความร้ายกาจของระบบการเงินกระดาษ (fiat money system)ของเฟดหรือยัง? เฟดสามารถพิมพ์เงินเปล่าๆออกมา โดยไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง แบงก์เอาเงินดอลล่าร์นั้นไปleverageหรือปล่อยกู้ต่อได้หลายเท่า กลายเป็นเงินกระดาษต่อยอดเงินกระดาษในรูปแบบของปิรามิด

เงินQEของเฟดที่พิมพ์ขึ้นมาในระยะ7ปี จำนวน$3.5ล้านล้าน ถูกนำเอาไปเล่นแร่แปรธาตุเป็น$60ล้านล้าน ให้ประเทศเกิดใหม่เสพติด รวมทั้งประเทศไทยที่มีการกู้ยืมเงินดอลล่าร์ที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกๆในช่วงเวลานั้น

จากความไม่มีอะไร เฟดสามารถเสกเงินดอลล่าร์กระดาษออกมาเปล่าๆจากกลางอากาศได้$3.5ล้านล้าน แล้วสร้างภาระหนี้ให้โลกภายนอก หรือตลาดเกิดใหม่เป็นส่วนมากได้ถึง$60ล้านล้าน ภาระหนี้$60ล้านล้านกำลังจะกลายเป็นปัญหาเมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ย มีการดึงสภาพคล่องกลับสหรัฐ จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนดอลล่าร์ที่จะมีอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นอีก

นี้คือการทำลายโลกให้อ่อนแอลง ให้เสพติดกับดักดอลล่าร์กระดาษที่โดยสารัตถะแล้วไม่มีค่าอะไร โดยฝีมือของเฟดที่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย

แล้วทรัมป์จะบอกว่า เฟดควรละอายใจตัวเองได้อย่างไร ในเมื่อเฟดทำลายโลกให้ทรัมป์บริหารงานได้ง่ายขึ้น

thanong
 20/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #193 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:53:04 PM »

มินิซีรี่ส์
 29. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ในปี2015 ระหว่างการหาเสียงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่รัฐนิวแฮมเชอร์ ทรั้มป์ให้สัมภาษณ์สื่อWMUR-TVที่ตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะกลับไปสู่มาตรฐานทองคำ โดยเขาตอบว่า: "ในบางแง่ ผมชอบมาตรฐานทองคำ มันมีสิ่งที่ดีอยู่ แต่เราต้องกลับไปหามาตรฐานทองคำในช่วงจังหวะเวลาที่ถูกต้อง เราเคยเป็นประเทศที่มั่นคง เพราะว่าเราอิงการเงินของเรากับมาตรฐานทองคำ แต่ตอนนี้เราไม่มีระบบนี้อีกแล้ว มันยากที่จะทำเรื่องนี้ในเวลานี้ และหนึ่งในปัญหานั้นก็คือเราไม่มีทองคำอีก ส่วนประเทศอื่นๆมีทอง"

Trump: “In some ways, I like the gold standard and there is something very nice about it but you have to go back at the right time... We used to have a very solid country because it was based on a gold standard for it. We do not have that anymore. There is something very nice about the concept of that. It would be very hard to do at this point and one of the problems is we do not have the gold. Other places have the gold."

โลกจะแตก ทรั้มป์เป็นคนเปิดเผยว่าสหรัฐไม่มีทองคำสำรองเหลืออยู่เลย

บางทีทรั้มป์อาจจะรู้ดีเกี่ยวกับทองคำสำรองของสหรัฐที่เก็บรักษาที่Fort Knox หรือทองของกระทรวงการคลังที่ไม่ได้รับการตรวจสอบหรือประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ

นอกจากFort Knoxแล้ว อีกที่หนึ่งที่ใช้เป็นที่เก็บทองคือชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่ของUS Federal Reserve Bankสาขานิวยอร์ค

ทางGold World Councilมีการทำรายงานเกี่ยวกับทองคำสำรองของแต่ละประเทศทุกๆปี และล่าสุดมีการให้ตัวเลขว่า สหรัฐมีทองคำสำรองอยู่8,133.5ตัน ตัวเลขนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว

มีความเป็นไปได้ที่ทองคำจำนวนนี้มีแค่เพียงตัวเลขเท่านั้น โดยมีมือดีแอบฉกไปอย่างเงียบๆ เพราะว่าหลังจากที่สหรัฐยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำในปี1971 ความสำคัญของทองในระบบการเงินมีน้อยลง โดยสหรัฐพยายามสร้างภาพว่า เงินดอลล่าร์กระดาษดีกว่าทอง เพราะว่าจ่ายดอกเบี้ย ขณะที่ทองไม่ให้ผลตอบแทนอะไร

ทรั้มป์มีความรู้เกี่ยวกับแนวคิดของระบบมาตรฐานทองคำดีเลยทีเดียว เพราะเขารู้ดีว่า ธนาคารกลางของสหรัฐมีการพิมพ์เงินดอลล่าร์ออกมาจากกลางอากาศเปล่าๆ โดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง ทำให้ไม่มีวินัยการเงินการคลัง และทำให้มีความเสี่ยงที่สหรัฐจะเจอกับปัญหาเงินเฟ้อ

ทรั้มป์สนับสนุนมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) โดยที่ระบบการเงินจะอิงทอง ซึ่งจะทำหน้่าที่เป็นหน่วยของเงินตรา เงินกระดาษที่พิมพ์ออกมาจะต้องอิงหน่วยของเงินตรานั้น ซึ่งก็คือทองนั้นเอง

เมื่อประเทศต่างๆหันมาใช้มาตรฐานทองคำ ค่าเงินของแต่ละประเทศจะอิงทอง ด้วยเหตุนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่างๆจะมีเสถียรภาพ ไม่แกว่งขึ้นลงอย่างรุนแรงเหมือนอย่างปัจจุบันภายใต้ระบบดอลล่าร์กระดาษที่ไม่มีมาตรฐานอะไรมารองรับเลย

ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรั้มป์ออกมาโจมตีการทำงานของUS Federal Reserveหรือธนาคารกลางของสหรัฐเป็นระยะๆ โดยเขากล่าวหาว่าเฟดกดดอกเบี้ยต่ำนานเกินไปทำให้กลไกเศรษฐกิจถูกบิดเบือน และเป็นการสร้างตลาดหุ้นเทียม

เขาบอกว่า เขาต้องการสอบบัญชีเฟด เพราะว่าเฟดดำเนินการบริหารการเงินอย่างไม่โปร่งใส
https://www.bullionstar.com/blo…/bullionstar/trump-and-gold/

เมื่อมีการสอบบัญชีเฟด หรือตรวจสอบทองคำสำรองที่Fort Knoxอาจจะพบว่าไม่มีทองเหลืออยู่อีกเลย หรือไม่ก็มีแต่ตะกั่วฉาบด้วยทอง

ทรั้มป์เป็นคนป่าวประกาศเองว่า รัฐบาลสหรัฐเปรียบเหมือนจักรพรรดิที่ล้อนจ้อนไม่ได้ทรงอาภรณ์อะไรเลย (The Emperor has no clothes)
 thanong
 20/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #194 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2016, 02:54:08 PM »

มินิซีรี่ส์
 30. ทรั้มป์ปฏิวัติ: ของจริงหรือสิ่งเทียม

ทรั้มป์มาทำให้โลกกลับหัวกลับหาง

ที่ประชุมเอเปคที่เปรูระหว่างวันที่19-20พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฎว่าอเมริกาเป็นหมาหัวเน่า โอบามาต้องทำตัวลีบๆ เพราะว่านโยบายปักหมุดในเอเชีย (Pivot to Asia) และความพยายามที่จะผลักดันเขตการค้าเสรีของTrans Pacific Partnershipของเขากำลังล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา

ทรั้มป์ตัวแสบคนเดียวที่ประกาศว่าเขาจะหันหลังให้โลกาภิวัฒน์และการค้าเสรี เพื่อส่งเสริมแนวคิดอเมริกามาก่อน นอกจากนี้ ทรั้มป์ยังได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเขาจะล้มล้างเกือบจะทุกนโยบายที่เป็นมรดกของโอบามา ทำให้โอบามาหมดฟอร์ม และนับเป็นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ความเป็นผู้นำของสหรัฐในเวทีเอเปคไม่ได้รับความน่าเชื่อถือเลย

ในทางตรงกันข้าม ผู้นำจีน สี จิ้นผิงกระโดดเข้ามาเสียบแทน ด้วยการฉวยโอกาสที่เกิดช่องว่างของความเป็นผู้นำโลกที่สหรัฐได้ก้าวถอยหลังออกไป สีได้เสนอให้เอเชียแปซิฟิคเดินหน้าสร้างเขตการค้าเสรีต่อไป เรียกว่าเขตการค้าเสรีแห่งแปซิฟิค (Free Trade Area of the Pacific) โดยที่จีนจะเป็นผู้นำแทนเพื่อที่จะรักษาการค้าของภูมิภาคไม่ให้ชะงักงัน และให้มีการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจของประชาคมเอเชียแปซิฟิคต่อไป

สีประกาศว่าจะเปิดกว้างเศรษฐกิจของแดนมังกรต่อไป พร้อมกับป่าวร้องยึดมั่นในเรื่องการค้าเสรี ขณะที่แดนมังกรก้าวเข้าไปเติมเต็มช่องว่างซึ่งถูกทิ้งเอาไว้ สืบเนื่องจากว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า จะฉีกทิ้งข้อตกลงการค้าทั้งหลายหรือไม่ก็ขอเปิดเจรจาต่อรองกันใหม่

ในอีกด้านหนึ่ง สีผลักดันข้อเสนอเรื่องการจัดทำ ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP) ที่ประกอบด้วย 10 ชาติอาเซียน, พวกชาติคู่เจรจาของอาเซียนอีก 6 ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ทว่า ไม่มีสหรัฐฯ

“จีนจะไม่เปิดประตูของตัวเองต่อโลกภายนอก แต่ยังจะเปิดกว้างให้มากขึ้นด้วย” สี กล่าวเช่นนี้ในคำปราศรัยสำคัญต่อที่ประชุมเอเปกคราวนี้ “เรากำลังจะ ... ทำให้เกิดความแน่ใจว่าดอกผลต่างๆ ของการพัฒนาจะมีการแบ่งปันกัน”
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx

นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าโลกมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ที่สหรัฐผู้นำค่ายเสรีนิยมของโลกกำลังหันหลังให้โลกาภิวัฒน์และการค้่าเสรี และกำลังจะเอาลัทธิกีดกันการค้ามาใช้ ส่วนจีน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศเผด็จการคอมมิวนิสต์กำลังเรียกร้องให้เดินหน้าการค้าเสรี และสวมกอดโลกาภิวัฒน์อย่างแนบแน่นยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดีของเปรูนาย เปโดร ปาโบล คักซินสกี ได้เรียกร้องให้ผู้นำในภูมิภาคมีมาตรการปกป้องการค้าเสรีที่ได้ผล ขณะที่สหรัฐฯ ก็พยายามชี้แจงให้พันธมิตรทั้งหลายคลายความกังวลเรื่อง ทรัมป์

“ลัทธิกีดกันการค้าเริ่มมีแนวโน้มครอบงำสหรัฐฯ และอังกฤษ... แต่การส่งเสริมการค้าโลกให้เติบโต และสลายลัทธิกีดกันทางการค้า คือหลักพื้นฐานที่เรายึดถือกันมาโดยตลอด” คักซินสกี กล่าว

ไม่กี่เดือนก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ชาวอังกฤษก็ได้ลงประชามติขอแยกตัว (Brexit) ออกจากสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อเดือน มิ.ย. ซึ่งส่งผลให้ระเบียบโลกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และอนาคตของการค้าเสรีตกอยู่ในภาวะง่อนแง่น

ทรัมป์ ประกาศจะนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership - TPP) ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา หวังฝากไว้เป็นอนุสรณ์ก่อนอำลาตำแหน่ง

โอบามาหวังว่าจะใช้TPPเพื่อที่จะสกัดอิทธิพลทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนในภูมิภาค แต่การล่มสลายของ TPP ซึ่งมุ่งขจัดอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุนในกลุ่ม 12 ประเทศริมมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันเกือบ 40% ของโลก ทำให้จีนมีช่องทางที่จะตีโต้กลับผ่านข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP)

ผู้แทนคนหนึ่งซึ่งเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปกเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า บรรดารัฐมนตรีต่างมีความกังวลว่าสหรัฐฯ จะกลับไปใช้มาตรการกีดกัน และบรรยากาศการประชุมโดยรวมก็เป็นไปอย่างอึมครึม

ไมเคิล โฟรแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พยายามปลอบขวัญผู้นำชาติเอเปก โดยยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีจะไม่ทำให้นโยบายของสหรัฐฯ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างปัจจุบันทันด่วน พร้อมขอให้ทุกฝ่ายลองให้เวลา ทรัมป์ ทำงานสักพัก

“การเลือกตั้งเพิ่งจะผ่านไปแค่ 10 วันเท่านั้นเอง... รัฐบาลชุดใหม่ยังต้องการเวลาเตรียมตัวในช่วงเปลี่ยนผ่าน” โฟรแมน กล่าว

โฟรแมน อ้างถึงผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ที่พบว่า การไม่ให้สัตยาบันต่อทีพีพีจะสร้างความเสียหายแก่สหรัฐฯ มากถึง 94,000 ล้านดอลลาร์เฉพาะในช่วงปีแรก และตนเชื่อว่า ทรัมป์ มีแรงจูงใจหลายอย่างที่จะต้องผลักดันทีพีพีให้สำเร็จลุล่วง

ไบรอัน แจ็กสัน นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจาก ไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ ชี้ว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การพังครืนของทีพีพีจะกลายเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับจีน”

หลายชาติที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ มาอย่างยาวนานเริ่มแสดงท่าทีสนใจที่จะเข้าร่วมเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific - FTAAP) ซึ่งปักกิ่งผลักดันขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับทีพีพี รวมถึงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership, RCEP) ซึ่งมีรัฐสมาชิกแล้วทั้งสิ้น 16 ประเทศรวมถึงอินเดีย ทว่าไม่มีสหรัฐฯ อยู่ด้วย
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx
 thanong
 21/11/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 18   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: